4 เรื่องน่ารู้ การติดตั้งโซล่ารูฟไม่ให้กระทบต่อหลังคา คุ้มค่าต่อการใช้งาน

Nung Pr • 16 มีนาคม 2566

พื้นที่วางเปล่าบนหลังคาบ้าน หรืออาคาร ซึ่งไม่ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์อะไร นอกจากการป้องกันแสงแดด ความร้อน และฝน จะดีกว่าไหม ถ้าพื้นที่เหล่านี้สามารถสร้างคุณค่า ทำให้มีไฟฟ้าฟรีใช้ แบบไม่ต้องพึ่งระบบสายส่ง หรือพึ่งพาน้อยลง ทำให้ค่าไฟแสนแพงที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนลดลงไปด้วย โดยการหันมาพึ่งพาพลังงานแสงอาทิตย์ ด้วยการ ติดตั้งโซล่ารูฟ ซึ่งการติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่สูงอย่างหลังคาบ้านหรืออาคาร ที่ทั้งสูงและชัน จำเป็นต้องมีการสำรวจตรวจสอบ ประเมินศักยภาพและความพร้อมของโครงสร้างก่อนการติดตั้ง ทั้งนี้เพื่อสร้างความปลอดภัยต่อผู้พักอาศัย ใช้งาน รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ช่างที่ดำเนินการ รวมไปถึงอนาคตที่จำเป็นต้องมีการบำรุงรักษาและซ่อมแซม ซึ่งจะต้องมีการประเมินในด้านใดบ้าง มาค้นหาคำตอบที่น่าสนใจ สร้างความเข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน

1. สภาพหลังคาที่เหมาะสม และสิ่งที่ต้องตรวจสอบ

บ้าน หรืออาคารแต่ละหลัง อาจจะมีโครงสร้างหลังคาที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นไม้ หรือเหล็ก ซึ่งการ ติดตั้งโซล่ารูฟ นั้น จำเป็นต้องเริ่มต้นจากการสำรวจสภาพความแข็งแรงของหลังคา ซึ่งอาจจะมีการเสื่อมโทรมไปตามอายุการใช้งาน เพื่อประเมินศักยภาพความสามารถในการรองรับน้ำหนักแผงโซล่าเซลล์ที่จะดำเนินการติดตั้งบนหลังคาเพิ่มเติม โดยปกติน้ำหนักแผงจะอยู่ที่ราว 10 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ซึ่งหากเป็นโครงสร้างไม้อาจจะมีปัญหา ต้องทำโครงสร้างเหล็กเพิ่มเติมเพื่อช่วยรับน้ำหนัก ป้องกันการทรุดตัว

2. วัสดุมุงหลังคา และรูปแบบการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ที่เหมาะสม

อีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณา เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่ตัวอาคาร และการดำเนินการ ติดตั้งโซล่ารูฟ ก็คือ วัสดุที่ใช้ในการมุงหลังคา ซึ่งโดยทั่วไป มักจะเป็นกระเบื้องคอนกรีต, เซรามิก, คอมโพสิต, หิน ซึ่งเพื่อความมั่นคงแข็งแรง จำเป็นต้องมีการนำโครงเหล็กยึดแผงมาติดตั้งเพิ่มเติม เพื่อให้แผงโซล่าเซลล์ลอยอยู่เหนือหลังคา ไม่ทำให้กระเบื้องผุพังแตกหักเสียหาย และไม่ทำให้เกิดการรั่วซึม ซึ่งจะทำให้กระทบกระเทือน สร้างความเสียหายต่อโครงสร้างภายในอาคาร ในกรณีกระเบื้องแนบกันไม่สนิท 

3. การติดตั้งแผงโซล่าเซลล์กับหลังคาในรูปแบบต่าง ๆ

รูปแบบการ ติดตั้งโซล่ารูฟ โดยหลัก ๆ ในปัจจุบันจะมีด้วยกัน 3 รูปแบบ ได้แก่ แบบที่หนึ่ง เป็นการยึดติดกับจุดโครงสร้างหลักคาเดิม หากเป็นรูปแบบที่มีน็อตยึด ซึ่งการติดตั้งในรูปแบบนี้ จะมีข้อดีที่ไม่ต้องทำการเจาะตัดหลังคา ทำให้เกิดความสะดวก ง่ายต่อการติดตั้ง และไม่เสี่ยงที่จะทำให้เกิดความเสียหายต่อหลังคา ส่วนในแบบที่ 2 เป็นการติดตั้งโดยการเจาะเบื้องหลังคา ซึ่งจะทำให้การยึดแผงโซล่าเซลล์กับหลังคามีความแข็งแรง แต่จำเป็นต้องใช้กาวซิลิโคนมาเป็นตัวช่วยในการยึด และการติดตั้งแบบสุดท้าย เป็นแบบสอดใต้กระเบื้อง โดยอาศัยช่องว่างรอยต่อของกระเบื้องในการติดตั้งอุปกรณ์เพื่อยึดแผงโซล่าเซลล์ ทำให้ไม่ต้องเจาะ หรือรื้อน๊อตที่ยึดกระเบื้องเดิม 

4. ระยะทางการเดินสายไฟ รวมไปถึงความปลอดภัยในการขึ้นไปติดตั้ง 

อีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่นำมาพิจารณา ประเมินความพร้อมในการ ติดตั้งโซล่ารูฟ ไม่ได้ นั่นก็คือ ระยะทางในการเดินสายไฟ ไปยังแผงควบคุมภายในอาคาร เนื่องจากหากระยะทางไกลมาก ก็จะทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น การคำนวณ และเลือกพื้นที่ที่มีความเหมาะสม ทั้งในด้านการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ และจุดควบคุมระบบ ซึ่งควรอยู่ใกล้จุดเดิมที่รวมชุดควบคุมไฟฟ้าไว้ นอกจากนั้นความปลอดภัยในการขึ้นไปติดตั้งแผงโซล่าเซลล์บนหลังคา ก็จำเป็นต้องตรวจเช็ค ทั้งในด้านการขึ้นลง การลำเลียงแผง และอุปกรณ์ ที่ต้องไม่ลำบากมากจนเกินไป 


สำหรับการ ติดตั้งโซล่ารูฟ ซึ่งเกี่ยวข้องกับระบบการผลิตไฟฟ้า รวมไปถึงตัวอาคาร จึงมีความจำเป็นต้องดูแลเอาใจใส่ในด้านความปลอดภัยทั้งต่อตัวผู้ที่พักอาศัย ผู้ใช้งาน รวมไปถึงช่างที่รับผิดชอบในการติดตั้ง และบำรุงรักษา และที่สำคัญคือต้องสร้างความคุ้มค่า ตอบโจทย์ต่อเป้าหมายในการลดค่าไฟ และทำให้มีไฟฟ้าใช้ในประมาณที่ต้องการ ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญเข้ามาดูแล โดยหนึ่งในบริษัทที่มีความน่าเชื่อถืออยู่ในธุรกิจนี้มากกว่า 20 ปี เราขอแนะนำ บริษัท โซลาร์ พาวเวอร์ ครีเอชั่น บริษัทติดตั้งโซลาร์เซลล์  ที่มีความเชี่ยวชาญมีประสบการณ์ ให้บริการแบบครบวงจร ที่มีทีมงานคุณภาพพร้อมให้บริการ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 082 – 6282456 หรือแอดไลน์ @Solarpowercreation และติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.powercreation.co.th และ Facebook : Solar Power Creation

โดย Nung Pr 8 มกราคม 2567
หยุดทำให้โซลาร์ ต้องกลายเป็นผู้ต้องหากันเถอะ
โดย Nung Pr 9 ตุลาคม 2566
ในแต่ละเดือน ทุกครอบครัวจะมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันออกไป แต่มีหนึ่งสิ่งที่ทุกสถานที่ต้องจ่ายเช่นเดียวกัน ก็คือ ค่าไฟฟ้า ซึ่งยิ่งใช้มาก ก็จะมียอดเรียกเก็บในแต่ละเดือนสูงขึ้น โดยเฉพาะในทุกวันนี้ที่หลาย ๆ แห่งประสบปัญหา ค่าไฟแพงมาก จนอยากหาทางออก ที่ไม่ใช่แค่การประหยัดไฟ ซึ่งบางครั้งก็รบกวนสร้างความยุ่งยาก ลำบาก ไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร โดยการหาทางแก้อย่างยั่งยืนได้นั้น ก็ต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าสาเหตุของวิกฤติ ค่าไฟแพงมาก นั้นมาจากอะไร ซึ่งคงมีหลายคนที่สงสัย และต้องการหาคำตอบว่ามีต้นทางมาจากอะไร เราจึงอยากชวนมาทำความเข้าใจ ให้กระจ่างกัน 1. ความผิดปกติของการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิด ปัญหา ค่าไฟแพงมาก อาจจะมีหนึ่งในสาเหตุมาจากการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิดมากกว่าผิดปกติ หรือเป็นไปได้ว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าธรรมดาจะเกิดความเสื่อมสภาพภายใน จนทำให้กินไฟมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์รุ่นเก่า ๆ ที่ใช้งานมานาน และไม่ได้มีการพัฒนาใช้เทคโนโลยีประหยัดไฟฟ้าซึ่งเป็นนวัตกรรมสมัยใหม่ ซึ่งหากพบว่ามาจากสาเหตุนี้ ก็ควรมีการเปลี่ยนแปลงซ่อมแซม หรือซื้อเครื่องใหม่ที่ใช้งานได้เป็นปกติทดแทน ซึ่งจะช่วยให้สามารถประหยัดไฟฟ้า และช่วยลดค่าไฟให้ต่ำลงได้ 2. เกิดไฟฟ้ารั่วในบางจุด หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าตามปกติ ไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงใด ๆไม่ได้ทำกิจกรรมหรือจัดงานอะไรพิเศษที่มีการใช้ไฟฟ้ามากกว่าธรรมดา ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าปัญหา ค่าไฟแพงมาก จะมีสาเหตุมาจากเกิดไฟฟ้ารั่วไหลในบางจุด ซึ่งมีการเสื่อมสภาพของสายไฟ หรือมีสัตว์ต่าง ๆ เช่น หนูมากัดแทะสายไฟ จนทำให้เกิดปัญหาไฟฟ้าช๊อต และไหลออกโดยไม่ได้ใช้งาน หากมีการตรวจสอบที่ชัดเจนแล้ว ก็ควรเร่งติดต่อช่างไฟฟ้ามาดำเนินการซ่อมแซมแก้ไข ไม่ควรดำเนินการเอง หากไม่มีความชำนาญ 3. ความผิดพลาดของบุคคลที่เกี่ยวข้อง บางครั้งปัญหา ค่าไฟแพงมาก ก็อาจจะไม่ได้มาจากสาเหตุภายในสถานที่ซึ่งใช้ไฟฟ้านั้น ๆ ก็เป็นไปได้หลายครั้งที่พบว่าเกิดจากความผิดพลาดของผู้เกี่ยวข้องในระบบจัดการคิดคำนวณค่าไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นผู้ทำหน้าที่จดมิเตอร์ หรือระบบในการจัดส่งข้อมูล ซึ่งทำให้ยอดที่แสดงผลในบิลค่าไฟฟ้ารายเดือนผิดแผกแตกต่างไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งจะต้องมีการแจ้งให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเร่งตรวจสอบ เพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ของตนเอง และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการรับผิดชอบแก้ไข 4. การปรับตัวของต้นทุนพลังงานในการผลิตไฟฟ้า อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่เป็นต้นตอของปัญหา ค่าไฟแพงมาก ก็มาจากการปรับตัวของต้นทุนเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหินรวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างซ่อมแซมโรงไฟฟ้าที่ถูกผลักมาเป็นค่าใช้จ่ายที่ผู้ใช้ไฟฟ้าจะต้องแบกรับผ่านค่า ft ซึ่งจะมีการทบทวนและประกาศใหม่ในทุก ๆ 3 เดือน แม้ว่าจะใช้ไฟฟ้าในจำนวนหน่วยเท่าเดิม แต่หากค่า ft ปรับตัวเพิ่มขึ้น ก็มีความเป็นไปได้ที่ค่าไฟจะพุ่งสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 5. การใช้ไฟฟ้าสูงกว่าปกติตามฤดูกาล ในแต่ละเดือนของแต่ละปี จะมีการใช้ไฟฟ้าที่แตกต่างกันออกไป โดยฤดูกาลก็มีผล อย่างฤดูฝนหรือฤดูหนาว ก็จะมีการใช้ไฟฟ้าที่น้อยกว่าฤดูร้อน ซึ่งจะต้องเปิดใช้งานเครื่องปรับอากาศ พัดลมมากกว่าปกติ ซึ่งชุดเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ก็กินไฟสูง จึงเป็นเหตุให้ ค่าไฟแพงมาก กว่าช่วงเวลาอื่น ๆ ได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น เพื่อการหาทางเลือกอื่น ๆ ที่ช่วยให้ประหยัดค่าไฟในฤดูร้อนได้ดี ก็อาจจะเป็นตัวช่วยให้ค่าไฟฟ้าในเวลานั้นไม่สูงเกินกว่าค่าเฉลี่ยทั้งปีได้ ซึ่งจะสามารถช่วยแก้ปัญหาค่าใช้จ่ายสูงได้ จากสาเหตุ ค่าไฟแพงมาก ที่รวบรวมมาคลายความสงสัยให้ทุกคนได้ทราบ เพื่อจะได้วางแผนในการตรวจสอบและแก้ไข โดยหนึ่งทางออกที่ช่วยสยบปัญหานี้ได้อย่างอยู่หมัดก็คือ การเลือกใช้ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มาเป็นตัวช่วย โดยหากท่านใดที่สนใจในการนำระบบโซล่าเซลล์มาใช้งาน แต่เริ่มต้นไม่ถูกว่าจะต้องทำอะไรก่อนดี สามารถขอคำปรึกษาและสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ จากผู้ที่มีความเชี่ยวชาญอย่าง บริษัท โซลาร์ พาวเวอร์ ครีเอชั่น ที่มีทีมวิศวกรและช่างที่มีความเชี่ยวชาญดูแลตลอดระยะเวลาตั้งแต่สำรวจ ติดตั้ง ขออนุญาต ไปจนถึงการบำรุงรักษา โดยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 082-628-2456 หรือแอดไลน์ @Solarpowercreation และเข้าไปอ่านเนื้อหาความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับโซลาร์เซลล์ได้ที่ www.powercreation.co.th และ Facebook : Solar Power Creation
โดย Nung Pr 9 ตุลาคม 2566
เสียงบ่นเรื่องค่าไฟแพงมักจะได้ยินกันอยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน ซึ่งมีอัตราการใช้ไฟฟ้าที่สูงกว่าช่วงอื่น ๆ ในแต่ละปี โดยอาจจะมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่ทราบว่ามีสาเหตุหรือต้นทางมาจากอะไร เราจึงอยากชวนผู้ใช้ไฟทุกคนมาทำความเข้าใจกันว่าปัญหา ค่าไฟแพง 2566 มีปัจจัยใดเป็นตัวสนับสนุน แล้วเราจะหาทางออกให้กับวิกฤติเรื้อรังนี้ยังไงให้เกิดความยั่งยืน เนื่องจากไฟฟ้าถือเป็นพลังงานสำคัญและมีความจำเป็นสำหรับทุกสถานที่ และทุกคน โดยเฉพาะในอนาคตที่คาดว่าจะต้องใช้ในปริมาณเพิ่มสูงขึ้น การมารู้จักสาเหตุ ค่าไฟแพง 2566 จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่จะสร้างทางเลือกใหม่ ๆ ที่จะทำให้ไม่ต้องเครียดกับปัญหาค่าไฟที่ผลักดันให้ค่าครองชีพสูงตามไปด้วย 1. การพึ่งพาและนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างชาติ ที่ไม่สามารถควบคุมราคาได้ การผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยในปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรายังคงพึ่งพาเชื้อเพลิงที่มีแหล่งผลิตอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งทำให้ไม่สามารถควบคุมโครงสร้างราคาได้ โดยเฉพาะหากมีปัจจัยอื่น ๆ เข้ามาสนับสนุน เช่น การหยุดซ่อมแซมเพื่อปรับปรุงระบบขุดเจาะหรือนำส่ง การเกิดภาวะสงครามหรือความขัดแย้งในประเทศนั้น ๆ จำนวนปริมาณพลังงานที่มีจำนวนน้อยลง จนส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหา ค่าไฟแพง 2566 ทั้งสิ้น 2. การใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลส่วนใหญ่ในการเป็นแหล่งพลังงานผลิตไฟฟ้า ระบบโรงผลิตไฟฟ้าส่วนใหญ่ยังคงต้องใช้เชื้อเพลิงจากน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสำคัญในการผลิตไฟฟ้า ทำให้ประเทศไทยต้องแบกรับความเสี่ยงกรณีขาดแคลนเชื้อเพลิงเหล่านี้ ซึ่งต้องมีการหาแหล่งสำรอง ที่อาจจะมีราคาที่สูงขึ้น แต่ด้วยข้อจำกัด จึงต้องมีการจัดซื้อ เพื่อให้มีต้นทุนเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าให้เพียงพอต่อความต้องการของประชากรในประเทศ และไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจการค้าโดยรวม นี่จึงนับเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ส่งผลให้เกิดวิกฤติ ค่าไฟแพง 2566 3. รูปแบบต้นทุนการผลิต ที่ผลักภาระไปสู่ผู้ใช้ไฟฟ้าโดยตรง ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในการผลิตไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นที่ผลิตโดยโรงไฟฟ้าของรัฐ หรือเอกชน จะนำมาคำนวณรวมกันแล้วเฉลี่ยเป็นส่วนประกอบของโครงสร้างค่าไฟฟ้าที่ทุกสถานที่ผู้ใช้ไฟจะต้องแบกรับ ในสัดส่วนที่แตกต่างกันไป แปรผันตามปริมาณการใช้งาน ยิ่งใช้ไฟฟ้ามาก ก็ยิ่งจะต้องจ่ายค่าไฟสูงขึ้น ค่าไฟแพง 2566 ส่วนหนึ่งจึงมาจากรูปแบบต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่จะผลักดันภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไปสู่ผู้ใช้ไฟฟ้าโดยตรง เพื่อไม่ก่อให้เกิดภาระขาดทุนที่ภาครัฐจะต้องแบกรับ หรือนำภาษีที่จัดเก็บได้มาอุดหนุน 4. การสำรองไฟฟ้าไว้ใช้งานในอัตราที่สูงเกินความจำเป็น เพื่อให้เกิดความมั่นคงทางพลังงานไฟฟ้า และไม่ก่อให้เกิดการหยุดชะงัก กรณีเกิดการขาดแคลน รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้ไฟ ไม่ว่าจะเป็นการไฟฟ้าฝ่ายผลิต การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือการไฟฟ้านครหลวง จึงต้องมีการวางแผน เพื่อดำเนินการสำรองกระแสไฟฟ้าไว้ใช้งานให้เพียงต่อ โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน หรือช่วงที่มีการหยุดซ่อมบำรุงของโรงไฟฟ้าบางแห่ง ซึ่งจะทำให้ไฟฟ้าบางส่วนหายไปจากระบบ ทำให้ต้องซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศเข้ามาทดแทน ในบางครั้งอาจจะมีอัตราสำรองที่สูงเกินจริง จึงเป็นหนึ่งในต้นเหตุให้เกิดปัญหา ค่าไฟแพง 2566 5. นโยบายด้านพลังงานที่ไม่สอดคล้องต่อสถานการณ์ เสถียรภาพด้านการเมือง แม้จะไม่ใช่ประเด็นหลักที่จะทำให้เกิดปัญหา ค่าไฟแพง 2566 แต่ก็ไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะนโยบายจากรัฐบาลในแต่ละยุคสมัยก็มีผลผูกพันต่อการทำสัญญาซื้อขาย และการวางแผนเพื่อรองรับการใช้ไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เมื่อมีการปรับเปลี่ยนรัฐบาล หรือผู้มีอำนาจในการสั่งการ ก็มักจะเป็นส่วนหนึ่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแนวคิดในการดำเนินการ ซึ่งอาจจะกระทบกระเทือน และไม่สอดคล้องต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ ค่าไฟแพง 2566 จึงมีสาเหตุหรือต้นทางมาจากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น โดยอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยคลี่คลายปัญหานี้ได้อย่างยั่งยืน ก็คือ การหันมาใช้พลังงานทางเลือกอย่างแสงอาทิตย์ในการผลิตไฟฟ้าผ่านระบบโซล่าเซลล์ โดยสำหรับท่านใดที่สนใจในการนำระบบโซล่าเซลล์มาใช้งาน สามารถขอคำปรึกษาและสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ จากผู้ที่มีความเชี่ยวชาญอย่าง บริษัท โซลาร์ พาวเวอร์ ครีเอชั่น บริษัทชั้นนำด้านการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ที่มีประสบการณ์มากว่า 20 ปี มีทีมวิศวกรและช่างที่มีความเชี่ยวชาญดูแลตลอดระยะเวลาตั้งแต่สำรวจ ติดตั้ง ขออนุญาต ไปจนถึงการบำรุงรักษา โดยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 082-628-2456 หรือแอดไลน์ @Solarpowercreation และเข้าไปอ่านเนื้อหาความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับโซลาร์เซลล์ได้ที่ www.powercreation.co.th และ Facebook : Solar Power Creation
โพสเพิ่มเติม