หนึ่งในคำถามที่หมอโซลาร์ต้องตอบทุกวันคือ ระบบโซลาร์แบบ On Grid กับ Off Grid ต่างกันอย่างไร
การนำแผงโซล่าเซลล์มาใช้เป็นพลังงานในการผลิตไฟฟ้า มีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ ตามวัตถุประสงค์และความต้องการของผู้ลงทุนติดตั้ง โดยรูปแบบที่นิยมกันอยู่ในปัจจุบัน มีทั้ง On Grid และ Off Grid โดย On Grid กับ Off Grid ต่างกันอย่างไรนั้น เป็นสิ่งที่ผู้สนใจติดตั้งควรให้ความใส่ใจเรียนรู้ ทั้งข้อดี และข้อเสียของทั้ง 2 ระบบให้ละเอียดถี่ถ้วน เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าต่อเงินที่เสียไป และสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาตามหาคำตอบของคำถามที่ว่าระบบ On Grid กับ Off Grid ต่างกันอย่างไร ได้ที่บทความนี้กันเลย
สำหรับ On Grid กับ Off Grid ต่างกันอย่างไรนั้น ความแตกต่างอย่างแรก คือ ระบบแปลงไฟฟ้า โดยระบบ On Grid จะใช้ Grid Tie Inverter เป็นอุปกรณ์แปลงไฟฟ้ามาใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และยังสามารถเชื่อมต่อเข้ากับระบบสายส่งของการไฟฟ้า ทำให้ลดความยุ่งยากในการต้องแยกระบบควบคุม รวมทั้งช่วยลดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมได้ด้วย ส่วนระบบ Off Grid จะใช้ Off Grid Inverter แปลงไฟฟ้าจากกระแสตรง เป็นกระแสสลับ แต่ไม่สามารถนำมาเชื่อมต่อกับระบบสายส่งของการไฟฟ้าได้
สำหรับคำตอบนี้ อาจจะเป็นตัวชูโรงของคำถามที่ว่าระบบ On Grid กับ Off Grid ต่างกันอย่างไร นั้นคือระบบ On Grid สามารถเชื่อมต่อกับระบบสายส่งของการไฟฟ้าได้ หากผลิตไฟฟ้าได้เกินกว่าความต้องการใช้งาน กระแสไฟฟ้าที่เหลือยังสามารถขายคืนให้กับการไฟฟ้าได้ เป็นการสร้างรายได้เพิ่มอีกหนึ่งช่องทาง แต่สำหรับระบบ Off Grid เป็นระบบที่ผลิตไว้ใช้งานเอง หรือหากผลิตได้เกินก็จะนำไปจัดเก็บในระบบแบตเตอรี่แทน ไม่สามารถนำไปขายคืนได้
จากการออกแบบระบบ On Grid ให้มีการทำงานร่วมกันของระบบจ่ายกระแสไฟฟ้า 2 ระบบ คือ ไฟฟ้าที่ผลิตจากแผงโซล่าเซลล์ และไฟฟ้าที่มาจากสายส่งของการไฟฟ้า แต่หากเกิดกระแสไฟฟ้าดับ ระบบ On Grid ก็จะดับไปด้วย แม้ว่าระบบโซล่าเซลล์จะยังสามารถผลิตไฟฟ้าได้ในช่วงกลางวัน เนื่องจากระบบได้ออกแบบมาเพื่อป้องกันกระแสไฟไหลย้อน ทำให้เกิดอันตรายแก่ผู้ปฏิบัติงานซ่อมแซมไฟฟ้า ส่วนระบบ Off Grid จะยังสามารถใช้งานไฟฟ้าได้ตลอดในช่วงเวลากลางวัน หรือมีไฟฟ้าสะสมในแบตเตอรี่ คำตอบนี้เป็นอีกประโยชน์สำหรับคุณได้แน่นอน หากคุณคือคนหนึ่งที่สงสัยว่าระบบ On Grid กับ Off Grid ต่างกันอย่างไรแล้วล่ะก็
อีกปัจจัย ที่หลายท่านมักสงสัยว่า On Grid กับ Off Grid ต่างกันอย่างไร ก็คือในส่วนงบประมาณค่าใช้จ่าย เนื่องด้วยระบบ Off Grid จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์จำนวนมากในการเชื่อมต่อกันเป็นระบบ ทั้งแผงโซล่าเซลล์, Inverter, Solar Charger, แบตเตอรี่ จึงจำเป็นต้องใช้งบประมาณในการลงทุนที่สูงกว่า ทั้งในการออกแบบ ติดตั้งและดูแลระบบผลิตไฟฟ้ามากกว่าระบบ On Grid
แม้ว่าระบบ On Grid จะสามารถผลิตไฟฟ้าจากแผงโซล่าเซลล์มาใช้ได้เอง แต่ยังคงต้องพึ่งพากระแสไฟฟ้าจากระบบสายส่งของการไฟฟ้า ในกรณีที่แสงแดดน้อย หรือในช่วงฤดูฝน จึงทำให้ยังคงมีรายจ่ายค่าไฟในแต่ละเดือนอยู่ ซึ่งจะลดน้อยลง จาการนำไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์เข้ามาเสริมในช่วงเวลากลางวัน ส่วนระบบ Off Grid เป็นระบบที่ไม่ได้มีการเชื่อมต่อกับระบบสายส่ง จึงไม่ต้องมีการจ่ายไฟฟ้ารายเดือน คำตอบของคำถามที่ว่า On Grid กับ Off Grid ต่างกันอย่างไร ข้อนี้ อาจทำให้ใครหลายคนต้องชั่งใจพอสมควรว่าจะใช้บริการระบบรูปแบบใดดี
จากข้อมูล On Grid กับ Off Grid ต่างกันอย่างไร คงทำให้ผู้สนใจติดตั้งระบบโซล่าเซลล์เพื่อผลิตไฟฟ้าไว้ใช้เอง สำหรับการลดค่าไฟ โดยการจะเลือกติดตั้งระบบใดนั้น ควรคำนึงถึงปริมาณไฟฟ้าที่ต้องการใช้งาน งบประมาณที่ต้องใช้ในการลงทุน รวมไปถึงทำเลที่ตั้งของพื้นที่ติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ ซึ่งต้องมีความเหมาะสม ทำให้ระบบมีการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องต่อความต้องการ หลังจากที่คุณได้รับข้อมูล และคำตอบของคำถามที่ว่าโซลาร์เซลล์ระบบ On Grid กับ Off Grid ต่างกันอย่างไรจากบทความนี้ไปในระดับหนึ่งแล้วล่ะก็ หากต้องการผู้เชี่ยวชาญที่เป็นมืออาชีพเข้ามาดูแลอย่างใกล้ติด สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท โซลาร์ พาวเวอร์ ครีเอชั่น ยินดีพร้อมเป็นที่ปรึกษา และให้บริการแบบครบวงจร ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี มีทีมวิศวกรและช่างที่มีความเชี่ยวชาญดูแล ตั้งแต่สำรวจ ติดตั้ง ขออนุญาต ไปจนถึงการบำรุงรักษา ผู้สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 082 – 6282456 หรือแอดไลน์ @Solarpowercreation และเข้าไปอ่านเนื้อหาความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับโซลาร์เซลล์ได้ที่
https://www.powercreation.co.th/ และ Facebook : Solar Power Creation