5 เงื่อนไขพื้นฐานที่ต้องเข้าใจ ก่อนคิดจะ ขายไฟฟ้าโซล่าเซลล์

Nung Pr • 27 เมษายน 2566

การติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ไว้ใช้งานนั้น นอกจากจะได้รับประโยชน์ในแง่ของการมี ไฟฟ้าต้นทุนต่ำ ไว้ใช้งานแบบฟรี ๆ แล้ว พลังงานส่วนที่เหลือจากการใช้งาน ยังสามารถนำมาขายคืนให้แก่การไฟฟ้า เพื่อสร้างรายได้กลับคืนมาได้อีกทอด ซึ่งวิธีการสร้างเงินจากการ ขายไฟฟ้าโซล่าเซลล์ นั้น ผู้ที่ต้องการหรือสนใจติดตั้ง ควรมีการทำความเข้าใจเงื่อนไขพื้นฐานต่าง ๆ ที่จำเป็นและมีส่วนสนับสนุนให้สามารถเชื่อมต่อโครงข่ายสายไฟฟ้าเข้ากับระบบของภาครัฐ รวมไปถึงข้อกำหนดต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้โครงการสนับสนุนด้านการผลิตไฟฟ้าภาคประชาชน ซึ่งเราอยากชวนมาเรียนรู้ และทำความเข้าใจ เพื่อจะได้วางแผนให้รอบคอบก่อนคิดจะขายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์

1. โซล่าเซลล์ภาคประชาชน รับขายไฟฟ้าคืนเฉพาะผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย 

เนื่องด้วยปริมาณการใช้ไฟฟ้าของประเทศไทยมีอัตราการใช้งานเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยแหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้าของไทยอาจจะไม่สามารถผลิตได้เพียงพอต่อความต้องการในอนาคต จึงจำเป็นต้องเร่งส่งเสริมให้เกิดการผลิตไฟฟ้าทางเลือก อย่างการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า โดยเฉพาะในภาคครัวเรือน ที่เป็นบ้านพักอาศัย โดยในหลายปีที่ผ่านมา คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. ได้มีการริเริ่มโครงการ ขายไฟฟ้าโซล่าเซลล์ คืนกลับแก่การไฟฟ้า เพื่อนำกระแสไฟฟ้าส่วนเกินที่ผลิตได้ และใช้ไม่หมด นำมาสร้างประโยชน์ต่อ ด้วยการนำเข้าสู่ระบบสายส่ง และกระจายให้แก่ผู้บริโภครายอื่น ๆ ต่อไป 

2. ขายไฟฟ้าคืนได้กับ 2 หน่วยงาน การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

สำหรับการ ขายไฟฟ้าโซล่าเซลล์ คืนเข้าสู่ระบบนั้น คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. ได้มอบหมายให้การไฟฟ้านครหลวง หรือ กฟน. เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบผู้ประสงค์จะขายไฟฟ้าคืน ซึ่งมีบ้านพักอาศัยอยู่ในพื้นที่เขตกรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ ส่วนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะรับผิดชอบดูแลเขตพื้นที่จังหวัดอื่น ๆ ในภูมิภาคต่าง ๆ โดยผู้ที่สนใจติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ทางโครงการโซล่าเซลล์ภาคประชาชนได้มีการระบุไว้ จึงจะสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการนี้ได้ 

3. ระยะเวลาในการขายคืน 10 ปี 

การใช้งานระบบผลิตไฟฟ้าโดยใช้แผงโซล่าเซลล์ จะมีอายุการใช้งานราว 25 – 30 ปี ซึ่งถือว่าจะสร้างประโยชน์แก่ผู้ติดตั้งในระยะยาว ส่วนในการ ขายไฟฟ้าโซล่าเซลล์ คืนแก่หน่วยงานของรัฐนั้น ได้กำหนดระยะเวลาไว้ที่ 10 ปี โดยในอนาคตหากมีการปรับปรุงพัฒนาประสิทธิภาพของระบบโซล่าเซลล์ให้ดียิ่งขึ้น ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีการทบทวนเงื่อนไขต่าง ๆ เหล่านี้ให้สอดคล้องต่อความเปลี่ยนแปลงต่อไป ซึ่งในระยะเวลาดังกล่าวก็จะทำให้ผู้เป็นเจ้าของบ้านพักอาศัย สามารถมีรายได้กลับคืนมาอย่างต่อเนื่อง 

4. ได้รับเงินขายไฟฟ้าหน่วยละ 2.20 บาท 

สำหรับในปี 2565 นี้ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. ได้มีปรับอัตราการรับซื้อคืนไฟฟ้าผ่านโครงการโซล่าเซลล์ภาคประชาชน จากเดิมซึ่งมีการรับซื้อในราคาหน่วยละ  1.68 บาท ต่อหน่วย มาเป็น 2.20 บาทต่อหน่วย โดยมีเป้าหมายปีละ 10 เมกะวัตต์ โดยแบ่งเป็นจากการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) 5 เมกะวัตต์ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) 5 เมกะวัตต์ ซึ่งแม้ว่าหลายท่านอาจจะคิดว่ามีราคาที่ถูกกว่าไฟฟ้าที่ขายให้แก่ประชาชน แต่หากมองในแง่ประโยชน์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องจากการผลิตไฟฟ้าไว้ใช้เอง และยังสามารถนำไฟฟ้าส่วนเกิน ซึ่งหากไม่ได้นำไปขาย ก็จะถูกทิ้ง ไม่ได้มีประโยชน์อะไร เนื่องจากไม่มีแหล่งจัดเก็บ 

5. ต้องมีการขออนุญาตและดำเนินการถูกต้องตามเงื่อนไขที่หน่วยงานกำหนด 

สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการโซล่าเซลล์ภาคประชาชน เพื่อ ขายไฟฟ้าโซล่าเซลล์ นั้น จำเป็นต้องมีการสมัครเข้าร่วมโครงการ และขออนุญาตในการดำเนินการติดตั้งตามระบบ ทั้งในด้านการนำเสนอแบบแปลนการออกแบบและติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ การใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านการรับรองจากการไฟฟ้านครหลวง หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รวมทั้งการทดสอบระบบ และเชื่อมต่อกับสายส่งของการไฟฟ้า และดำเนินการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าให้ถูกต้อง


ท่านที่สนใจในพลังงานไฟฟ้าทางเลือกจากพลังงานแสงอาทิตย์ คงมีความเข้าใจมากขึ้นแล้วว่า ถ้าจะ ขายไฟฟ้าโซล่าเซลล์ จะต้องทราบข้อมูลที่เกี่ยวข้องในด้านใดบ้าง เพื่อให้มีไฟฟ้าไว้ใช้เองแบบต้นทุนราคาถูก และยังสามารถสร้างรายได้กลับคืนแก่ผู้ติดตั้งด้วย  โดยหากผู้เป็นเจ้าของบ้านพักอาศัยท่านใด ที่มีความสนใจ ต้องการขอคำปรึกษาหรือขอคำแนะนำ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท โซลาร์ พาวเวอร์ ครีเอชั่น เรายินดีพร้อมให้บริการ ด้วยทีมงานที่มีคุณภาพ มีประสบการณ์ในการออกแบบและติดตั้งระบบโซล่าเซลล์มากว่า 20 ปี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 082 – 6282456 หรือแอดไลน์ @Solarpowercreation และติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.powercreation.co.th และ Facebook : Solar Power Creation

โดย Nung Pr 8 มกราคม 2567
หยุดทำให้โซลาร์ ต้องกลายเป็นผู้ต้องหากันเถอะ
โดย Nung Pr 9 ตุลาคม 2566
ในแต่ละเดือน ทุกครอบครัวจะมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันออกไป แต่มีหนึ่งสิ่งที่ทุกสถานที่ต้องจ่ายเช่นเดียวกัน ก็คือ ค่าไฟฟ้า ซึ่งยิ่งใช้มาก ก็จะมียอดเรียกเก็บในแต่ละเดือนสูงขึ้น โดยเฉพาะในทุกวันนี้ที่หลาย ๆ แห่งประสบปัญหา ค่าไฟแพงมาก จนอยากหาทางออก ที่ไม่ใช่แค่การประหยัดไฟ ซึ่งบางครั้งก็รบกวนสร้างความยุ่งยาก ลำบาก ไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร โดยการหาทางแก้อย่างยั่งยืนได้นั้น ก็ต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าสาเหตุของวิกฤติ ค่าไฟแพงมาก นั้นมาจากอะไร ซึ่งคงมีหลายคนที่สงสัย และต้องการหาคำตอบว่ามีต้นทางมาจากอะไร เราจึงอยากชวนมาทำความเข้าใจ ให้กระจ่างกัน 1. ความผิดปกติของการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิด ปัญหา ค่าไฟแพงมาก อาจจะมีหนึ่งในสาเหตุมาจากการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิดมากกว่าผิดปกติ หรือเป็นไปได้ว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าธรรมดาจะเกิดความเสื่อมสภาพภายใน จนทำให้กินไฟมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์รุ่นเก่า ๆ ที่ใช้งานมานาน และไม่ได้มีการพัฒนาใช้เทคโนโลยีประหยัดไฟฟ้าซึ่งเป็นนวัตกรรมสมัยใหม่ ซึ่งหากพบว่ามาจากสาเหตุนี้ ก็ควรมีการเปลี่ยนแปลงซ่อมแซม หรือซื้อเครื่องใหม่ที่ใช้งานได้เป็นปกติทดแทน ซึ่งจะช่วยให้สามารถประหยัดไฟฟ้า และช่วยลดค่าไฟให้ต่ำลงได้ 2. เกิดไฟฟ้ารั่วในบางจุด หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าตามปกติ ไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงใด ๆไม่ได้ทำกิจกรรมหรือจัดงานอะไรพิเศษที่มีการใช้ไฟฟ้ามากกว่าธรรมดา ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าปัญหา ค่าไฟแพงมาก จะมีสาเหตุมาจากเกิดไฟฟ้ารั่วไหลในบางจุด ซึ่งมีการเสื่อมสภาพของสายไฟ หรือมีสัตว์ต่าง ๆ เช่น หนูมากัดแทะสายไฟ จนทำให้เกิดปัญหาไฟฟ้าช๊อต และไหลออกโดยไม่ได้ใช้งาน หากมีการตรวจสอบที่ชัดเจนแล้ว ก็ควรเร่งติดต่อช่างไฟฟ้ามาดำเนินการซ่อมแซมแก้ไข ไม่ควรดำเนินการเอง หากไม่มีความชำนาญ 3. ความผิดพลาดของบุคคลที่เกี่ยวข้อง บางครั้งปัญหา ค่าไฟแพงมาก ก็อาจจะไม่ได้มาจากสาเหตุภายในสถานที่ซึ่งใช้ไฟฟ้านั้น ๆ ก็เป็นไปได้หลายครั้งที่พบว่าเกิดจากความผิดพลาดของผู้เกี่ยวข้องในระบบจัดการคิดคำนวณค่าไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นผู้ทำหน้าที่จดมิเตอร์ หรือระบบในการจัดส่งข้อมูล ซึ่งทำให้ยอดที่แสดงผลในบิลค่าไฟฟ้ารายเดือนผิดแผกแตกต่างไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งจะต้องมีการแจ้งให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเร่งตรวจสอบ เพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ของตนเอง และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการรับผิดชอบแก้ไข 4. การปรับตัวของต้นทุนพลังงานในการผลิตไฟฟ้า อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่เป็นต้นตอของปัญหา ค่าไฟแพงมาก ก็มาจากการปรับตัวของต้นทุนเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหินรวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างซ่อมแซมโรงไฟฟ้าที่ถูกผลักมาเป็นค่าใช้จ่ายที่ผู้ใช้ไฟฟ้าจะต้องแบกรับผ่านค่า ft ซึ่งจะมีการทบทวนและประกาศใหม่ในทุก ๆ 3 เดือน แม้ว่าจะใช้ไฟฟ้าในจำนวนหน่วยเท่าเดิม แต่หากค่า ft ปรับตัวเพิ่มขึ้น ก็มีความเป็นไปได้ที่ค่าไฟจะพุ่งสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 5. การใช้ไฟฟ้าสูงกว่าปกติตามฤดูกาล ในแต่ละเดือนของแต่ละปี จะมีการใช้ไฟฟ้าที่แตกต่างกันออกไป โดยฤดูกาลก็มีผล อย่างฤดูฝนหรือฤดูหนาว ก็จะมีการใช้ไฟฟ้าที่น้อยกว่าฤดูร้อน ซึ่งจะต้องเปิดใช้งานเครื่องปรับอากาศ พัดลมมากกว่าปกติ ซึ่งชุดเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ก็กินไฟสูง จึงเป็นเหตุให้ ค่าไฟแพงมาก กว่าช่วงเวลาอื่น ๆ ได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น เพื่อการหาทางเลือกอื่น ๆ ที่ช่วยให้ประหยัดค่าไฟในฤดูร้อนได้ดี ก็อาจจะเป็นตัวช่วยให้ค่าไฟฟ้าในเวลานั้นไม่สูงเกินกว่าค่าเฉลี่ยทั้งปีได้ ซึ่งจะสามารถช่วยแก้ปัญหาค่าใช้จ่ายสูงได้ จากสาเหตุ ค่าไฟแพงมาก ที่รวบรวมมาคลายความสงสัยให้ทุกคนได้ทราบ เพื่อจะได้วางแผนในการตรวจสอบและแก้ไข โดยหนึ่งทางออกที่ช่วยสยบปัญหานี้ได้อย่างอยู่หมัดก็คือ การเลือกใช้ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มาเป็นตัวช่วย โดยหากท่านใดที่สนใจในการนำระบบโซล่าเซลล์มาใช้งาน แต่เริ่มต้นไม่ถูกว่าจะต้องทำอะไรก่อนดี สามารถขอคำปรึกษาและสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ จากผู้ที่มีความเชี่ยวชาญอย่าง บริษัท โซลาร์ พาวเวอร์ ครีเอชั่น ที่มีทีมวิศวกรและช่างที่มีความเชี่ยวชาญดูแลตลอดระยะเวลาตั้งแต่สำรวจ ติดตั้ง ขออนุญาต ไปจนถึงการบำรุงรักษา โดยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 082-628-2456 หรือแอดไลน์ @Solarpowercreation และเข้าไปอ่านเนื้อหาความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับโซลาร์เซลล์ได้ที่ www.powercreation.co.th และ Facebook : Solar Power Creation
โดย Nung Pr 9 ตุลาคม 2566
เสียงบ่นเรื่องค่าไฟแพงมักจะได้ยินกันอยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน ซึ่งมีอัตราการใช้ไฟฟ้าที่สูงกว่าช่วงอื่น ๆ ในแต่ละปี โดยอาจจะมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่ทราบว่ามีสาเหตุหรือต้นทางมาจากอะไร เราจึงอยากชวนผู้ใช้ไฟทุกคนมาทำความเข้าใจกันว่าปัญหา ค่าไฟแพง 2566 มีปัจจัยใดเป็นตัวสนับสนุน แล้วเราจะหาทางออกให้กับวิกฤติเรื้อรังนี้ยังไงให้เกิดความยั่งยืน เนื่องจากไฟฟ้าถือเป็นพลังงานสำคัญและมีความจำเป็นสำหรับทุกสถานที่ และทุกคน โดยเฉพาะในอนาคตที่คาดว่าจะต้องใช้ในปริมาณเพิ่มสูงขึ้น การมารู้จักสาเหตุ ค่าไฟแพง 2566 จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่จะสร้างทางเลือกใหม่ ๆ ที่จะทำให้ไม่ต้องเครียดกับปัญหาค่าไฟที่ผลักดันให้ค่าครองชีพสูงตามไปด้วย 1. การพึ่งพาและนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างชาติ ที่ไม่สามารถควบคุมราคาได้ การผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยในปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรายังคงพึ่งพาเชื้อเพลิงที่มีแหล่งผลิตอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งทำให้ไม่สามารถควบคุมโครงสร้างราคาได้ โดยเฉพาะหากมีปัจจัยอื่น ๆ เข้ามาสนับสนุน เช่น การหยุดซ่อมแซมเพื่อปรับปรุงระบบขุดเจาะหรือนำส่ง การเกิดภาวะสงครามหรือความขัดแย้งในประเทศนั้น ๆ จำนวนปริมาณพลังงานที่มีจำนวนน้อยลง จนส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหา ค่าไฟแพง 2566 ทั้งสิ้น 2. การใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลส่วนใหญ่ในการเป็นแหล่งพลังงานผลิตไฟฟ้า ระบบโรงผลิตไฟฟ้าส่วนใหญ่ยังคงต้องใช้เชื้อเพลิงจากน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสำคัญในการผลิตไฟฟ้า ทำให้ประเทศไทยต้องแบกรับความเสี่ยงกรณีขาดแคลนเชื้อเพลิงเหล่านี้ ซึ่งต้องมีการหาแหล่งสำรอง ที่อาจจะมีราคาที่สูงขึ้น แต่ด้วยข้อจำกัด จึงต้องมีการจัดซื้อ เพื่อให้มีต้นทุนเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าให้เพียงพอต่อความต้องการของประชากรในประเทศ และไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจการค้าโดยรวม นี่จึงนับเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ส่งผลให้เกิดวิกฤติ ค่าไฟแพง 2566 3. รูปแบบต้นทุนการผลิต ที่ผลักภาระไปสู่ผู้ใช้ไฟฟ้าโดยตรง ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในการผลิตไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นที่ผลิตโดยโรงไฟฟ้าของรัฐ หรือเอกชน จะนำมาคำนวณรวมกันแล้วเฉลี่ยเป็นส่วนประกอบของโครงสร้างค่าไฟฟ้าที่ทุกสถานที่ผู้ใช้ไฟจะต้องแบกรับ ในสัดส่วนที่แตกต่างกันไป แปรผันตามปริมาณการใช้งาน ยิ่งใช้ไฟฟ้ามาก ก็ยิ่งจะต้องจ่ายค่าไฟสูงขึ้น ค่าไฟแพง 2566 ส่วนหนึ่งจึงมาจากรูปแบบต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่จะผลักดันภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไปสู่ผู้ใช้ไฟฟ้าโดยตรง เพื่อไม่ก่อให้เกิดภาระขาดทุนที่ภาครัฐจะต้องแบกรับ หรือนำภาษีที่จัดเก็บได้มาอุดหนุน 4. การสำรองไฟฟ้าไว้ใช้งานในอัตราที่สูงเกินความจำเป็น เพื่อให้เกิดความมั่นคงทางพลังงานไฟฟ้า และไม่ก่อให้เกิดการหยุดชะงัก กรณีเกิดการขาดแคลน รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้ไฟ ไม่ว่าจะเป็นการไฟฟ้าฝ่ายผลิต การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือการไฟฟ้านครหลวง จึงต้องมีการวางแผน เพื่อดำเนินการสำรองกระแสไฟฟ้าไว้ใช้งานให้เพียงต่อ โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน หรือช่วงที่มีการหยุดซ่อมบำรุงของโรงไฟฟ้าบางแห่ง ซึ่งจะทำให้ไฟฟ้าบางส่วนหายไปจากระบบ ทำให้ต้องซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศเข้ามาทดแทน ในบางครั้งอาจจะมีอัตราสำรองที่สูงเกินจริง จึงเป็นหนึ่งในต้นเหตุให้เกิดปัญหา ค่าไฟแพง 2566 5. นโยบายด้านพลังงานที่ไม่สอดคล้องต่อสถานการณ์ เสถียรภาพด้านการเมือง แม้จะไม่ใช่ประเด็นหลักที่จะทำให้เกิดปัญหา ค่าไฟแพง 2566 แต่ก็ไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะนโยบายจากรัฐบาลในแต่ละยุคสมัยก็มีผลผูกพันต่อการทำสัญญาซื้อขาย และการวางแผนเพื่อรองรับการใช้ไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เมื่อมีการปรับเปลี่ยนรัฐบาล หรือผู้มีอำนาจในการสั่งการ ก็มักจะเป็นส่วนหนึ่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแนวคิดในการดำเนินการ ซึ่งอาจจะกระทบกระเทือน และไม่สอดคล้องต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ ค่าไฟแพง 2566 จึงมีสาเหตุหรือต้นทางมาจากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น โดยอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยคลี่คลายปัญหานี้ได้อย่างยั่งยืน ก็คือ การหันมาใช้พลังงานทางเลือกอย่างแสงอาทิตย์ในการผลิตไฟฟ้าผ่านระบบโซล่าเซลล์ โดยสำหรับท่านใดที่สนใจในการนำระบบโซล่าเซลล์มาใช้งาน สามารถขอคำปรึกษาและสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ จากผู้ที่มีความเชี่ยวชาญอย่าง บริษัท โซลาร์ พาวเวอร์ ครีเอชั่น บริษัทชั้นนำด้านการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ที่มีประสบการณ์มากว่า 20 ปี มีทีมวิศวกรและช่างที่มีความเชี่ยวชาญดูแลตลอดระยะเวลาตั้งแต่สำรวจ ติดตั้ง ขออนุญาต ไปจนถึงการบำรุงรักษา โดยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 082-628-2456 หรือแอดไลน์ @Solarpowercreation และเข้าไปอ่านเนื้อหาความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับโซลาร์เซลล์ได้ที่ www.powercreation.co.th และ Facebook : Solar Power Creation
โพสเพิ่มเติม