สรุป 4 เทคนิค เลือกขนาดของแผงโซลาร์เซลล์อย่างไร ให้เหมาะสมกับการใช้งาน

Nung Pr • 16 ธันวาคม 2564

เทคนิคสำคัญในการเลือกขนาดของแผงโซลาร์เซลล์ให้เหมาะกับการใช้งาน

การติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าขึ้นมาใช้นั้น แผงโซลาร์เซลล์ มีส่วนสำคัญในการทำให้การใช้งานมีประสิทธิภาพ โดยต้องเลือกขนาดให้สอดคล้องต่อการใช้งาน เพื่อให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้ในปริมาณที่ครอบคลุมต่อการนำไปใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆภายในบ้าน ลดค่าค่าไฟในระยะยาว สำหรับบุคคลทั่วไป อาจจะยังสับสนหรือสงสัยว่า แล้วจะเลือกขนาดของแผงโซลาร์เซลล์อย่างไร ให้เหมาะสมกับการใช้งานในรูปแบบที่ต้องการ เรามี 4 เทคนิคดีๆ ที่จะช่วยเป็นเงื่อนไขในการพิจารณามาแนะนำกัน 


1. พิจารณาเลือกจากขนาดและน้ำหนักของแผงโซลาร์เซลล์


ก่อนที่จะทำการเลือกแผงโซลาร์เซลล์นั้น ผู้ต้องการติดตั้งต้องทราบจุดประสงค์ก่อนว่า จะนำไปใช้กับการใช้งานรูปแบบไหน เป็นแบบติดตั้งยึดกับสถานที่ในระยะยาว เช่น การติดตั้งบนหลังคาอาคาร บนสระน้ำ หรือจะเป็นรูปแบบการใช้งานที่สามารถเคลื่อนที่ได้ เช่น การใช้กับพื้นที่เกษตร กิจกรรมแคมป์ปิ้ง หรือรถบ้าน โดยตัวแปรที่จะเข้ามามีผลต่อการตัดสินใจคือ ขนาด และน้ำหนักของแผง ซึ่งยิ่งแผงที่ให้กำลังไฟหรือโวลต์สูงๆ ก็จะยิ่งมีน้ำหนักที่สูงขึ้นตามไปด้วย สำหรับการติดตั้งแบบถาวรนั้น สามารถใช้ขนาดใหญ่และน้ำหนักมากได้ เนื่องจากการติดตั้งบนโครงหลังคามีความแข็งแรงพอสมควรที่จะรับน้ำหนักแผงได้ ส่วนรูปแบบที่ต้องมีการเคลื่อนย้าย จำเป็นต้องเลือกที่มีน้ำหนักเบา ง่ายต่อการเคลื่อนย้าย เช่น ขนาดไม่เกิน 200 โวลต์ หรือขนาด 150 x 70 เซนติเมตร น้ำหนัก 10 กิโลกรัม 

2. พิจารณาจากจำนวนโวลต์และแอมป์ของแผงโซลาร์เซลล์ และระบบควบคุม

อีกหนึ่งปัจจัยที่มีส่วนในการนำมาใช้ในการตัดสินใจเลือกขนาดของแผงโซลาร์เซลล์ ก็คือ จำนวนแรงดันไฟฟ้า หรือโวลต์ และปริมาณกระแสไฟที่ไหลผ่านเข้าตัวนำหรืออุปกรณ์ไฟฟ้า หรือแอมป์ โดย 2 ส่วนนี้ต้องมีความสัมพันธ์สอดคล้องกัน โดยเฉพาะระบบที่ต้องมีการชาร์ตไฟเก็บไว้ในแบตเตอรี่หรือระบบออฟฟกริด หากจำนวนโวลต์ของระบบสูงกว่า จำนวนโวลต์ของแผง จำเป็นต้องลดขนาดโวลต์ของระบบลงมาให้สอดคล้องกัน เช่นเดียวกับปริมาณแอมป์ ควรเลือกแผงให้สอดคล้องต่อปริมาณที่ Solar Charge Controller รับได้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับระบบ

3. พิจารณาเลือกจากชนิดของแผง และดูให้แน่ชัดว่าของแท้หรือของปลอม

แผงโซลาร์เซลล์ แต่ละชนิดจะมีประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าที่แตกต่างกัน การเลือกขนาดของแผง จึงต้องคำนึงถึงจุดนี้ด้วย เพราะบางชนิดประสิทธิภาพต่ำกว่า เช่น แผงโพลิคริสตัลไลน์ มีประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าต่ำกว่าแผงประเภทโมโนคริสตัลไลน์ แต่จะมีราคาที่ถูกกว่า การติดตั้งจึงจำเป็นต้องเลือกชนิดและขนาดของแผงให้เหมาะสม เพราะหากติดตั้งจำนวนน้อยไป ก็อาจจะส่งผลให้ไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ในปริมาณที่ครอบคลุมความต้องการ นอกจากนั้นควรตรวจสอบคุณภาพของแผงโซลาร์เซลล์ด้วยว่าเป็นของแท้หรือไม่ โดยให้สังเกตจากสติ๊กเกอร์ ข้อมูลสินค้าที่ติดอยู่บนแผง โลโก้ที่ติดอยู่บนกล่องบรรจุภัณฑ์ และหนังสือรับรองประกันคุณภาพจากทางร้าน 

4. พิจารณาเลือกจากการนำไปใช้กับระบบออฟกริด หรือออนกริด 

สำหรับการเลือกขนาดของแผงโซลาร์เซลล์เพื่อนำไปใช้ในรูปแบบออฟกริด หรือการชาร์ตไฟฟ้าเก็บไว้ในแบตเตอรี่เพื่อใช้งานนั้น จำเป็นต้องมีการคำนวณปริมาณการใช้ไฟฟ้าจากเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอย่างละเอียด โดยนำตัวเลขที่ฉลากของเครื่องใช้ไฟฟ้ามารวมกัน เพื่อค้นหาวัตต์ แล้วนำมาคูณด้วยจำนวนชั่วโมงที่มีการเปิดใช้งานต่อวัน เมื่อได้ตัวเลขมาแล้วจึงจะนำมาเทียบหาขนาดและจำนวนแผงที่ต้องนำมาติดตั้งเพื่อให้มีไฟฟ้าใช้เพียงพอ ส่วนในรูปแบบออนกริด ซึ่งมีการเชื่อมต่อกับระบบสายส่งของการไฟฟ้านั้น หากไฟฟ้าจากระบบโซลาร์เซลล์ไม่เพียงพอ ก็ยังสามารถดึงไฟจาการไฟฟ้ามาใช้แทนได้ ส่วนที่จะนำมาพิจารณาก็คือการลดต้นทุนค่าไฟฟ้า โดยพิจารณาจากจำนวนหน่วยที่ใช้ในแต่ละเดือน ซึ่งแสดงอยู่ในใบเสร็จค่าไฟ การเลือกขนาดแผง จึงต้องสอดคล้องต่อความต้องการในการลดค่าใช้จ่ายค่าไฟในแต่ละเดือนนั่นเอง 

จะเห็นได้ว่า เป้าหมายความต้องการสำหรับการใช้งานในแต่ละรูปแบบ มีผลอย่างยิ่งต่อการนำมาพิจารณาเลือกซื้อแผงโซลาร์เซลล์ ให้มีขนาด และปริมาณที่เหมาะสม ทั้งต่อพื้นที่ และงบประมาณ ซึ่งหากไม่มีความเชี่ยวชาญ ก็อาจจะทำให้เกิดความสับสนขึ้นได้ ทางที่ดี ควรให้บริษัทผู้ที่มีประสบการณ์มาช่วยในการคำนวณออกแบบให้จะมีประสิทธิภาพ และคุ้มค่ากว่า โดยท่านใดสนใจที่จะติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ สามารถขอรับคำปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญอย่างบริษัท โซลาร์ พาวเวอร์ ครีเอชั่น บริษัทที่ปรึกษาและให้บริการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์แบบครบวงจร โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 


โทร : 082-628-2456

Line ID : @solarpowercreation หรือคลิกที่ Link นี้

Facebook : Solar Power Creation


หมอโซลาร์พร้อมให้คำแนะนำ แบบไม่มีกั๊ก ที่ครบ จบที่เดียวแน่นอนครับ


โดย Nung Pr 8 มกราคม 2567
หยุดทำให้โซลาร์ ต้องกลายเป็นผู้ต้องหากันเถอะ
โดย Nung Pr 9 ตุลาคม 2566
ในแต่ละเดือน ทุกครอบครัวจะมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันออกไป แต่มีหนึ่งสิ่งที่ทุกสถานที่ต้องจ่ายเช่นเดียวกัน ก็คือ ค่าไฟฟ้า ซึ่งยิ่งใช้มาก ก็จะมียอดเรียกเก็บในแต่ละเดือนสูงขึ้น โดยเฉพาะในทุกวันนี้ที่หลาย ๆ แห่งประสบปัญหา ค่าไฟแพงมาก จนอยากหาทางออก ที่ไม่ใช่แค่การประหยัดไฟ ซึ่งบางครั้งก็รบกวนสร้างความยุ่งยาก ลำบาก ไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร โดยการหาทางแก้อย่างยั่งยืนได้นั้น ก็ต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าสาเหตุของวิกฤติ ค่าไฟแพงมาก นั้นมาจากอะไร ซึ่งคงมีหลายคนที่สงสัย และต้องการหาคำตอบว่ามีต้นทางมาจากอะไร เราจึงอยากชวนมาทำความเข้าใจ ให้กระจ่างกัน 1. ความผิดปกติของการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิด ปัญหา ค่าไฟแพงมาก อาจจะมีหนึ่งในสาเหตุมาจากการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิดมากกว่าผิดปกติ หรือเป็นไปได้ว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าธรรมดาจะเกิดความเสื่อมสภาพภายใน จนทำให้กินไฟมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์รุ่นเก่า ๆ ที่ใช้งานมานาน และไม่ได้มีการพัฒนาใช้เทคโนโลยีประหยัดไฟฟ้าซึ่งเป็นนวัตกรรมสมัยใหม่ ซึ่งหากพบว่ามาจากสาเหตุนี้ ก็ควรมีการเปลี่ยนแปลงซ่อมแซม หรือซื้อเครื่องใหม่ที่ใช้งานได้เป็นปกติทดแทน ซึ่งจะช่วยให้สามารถประหยัดไฟฟ้า และช่วยลดค่าไฟให้ต่ำลงได้ 2. เกิดไฟฟ้ารั่วในบางจุด หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าตามปกติ ไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงใด ๆไม่ได้ทำกิจกรรมหรือจัดงานอะไรพิเศษที่มีการใช้ไฟฟ้ามากกว่าธรรมดา ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าปัญหา ค่าไฟแพงมาก จะมีสาเหตุมาจากเกิดไฟฟ้ารั่วไหลในบางจุด ซึ่งมีการเสื่อมสภาพของสายไฟ หรือมีสัตว์ต่าง ๆ เช่น หนูมากัดแทะสายไฟ จนทำให้เกิดปัญหาไฟฟ้าช๊อต และไหลออกโดยไม่ได้ใช้งาน หากมีการตรวจสอบที่ชัดเจนแล้ว ก็ควรเร่งติดต่อช่างไฟฟ้ามาดำเนินการซ่อมแซมแก้ไข ไม่ควรดำเนินการเอง หากไม่มีความชำนาญ 3. ความผิดพลาดของบุคคลที่เกี่ยวข้อง บางครั้งปัญหา ค่าไฟแพงมาก ก็อาจจะไม่ได้มาจากสาเหตุภายในสถานที่ซึ่งใช้ไฟฟ้านั้น ๆ ก็เป็นไปได้หลายครั้งที่พบว่าเกิดจากความผิดพลาดของผู้เกี่ยวข้องในระบบจัดการคิดคำนวณค่าไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นผู้ทำหน้าที่จดมิเตอร์ หรือระบบในการจัดส่งข้อมูล ซึ่งทำให้ยอดที่แสดงผลในบิลค่าไฟฟ้ารายเดือนผิดแผกแตกต่างไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งจะต้องมีการแจ้งให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเร่งตรวจสอบ เพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ของตนเอง และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการรับผิดชอบแก้ไข 4. การปรับตัวของต้นทุนพลังงานในการผลิตไฟฟ้า อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่เป็นต้นตอของปัญหา ค่าไฟแพงมาก ก็มาจากการปรับตัวของต้นทุนเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหินรวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างซ่อมแซมโรงไฟฟ้าที่ถูกผลักมาเป็นค่าใช้จ่ายที่ผู้ใช้ไฟฟ้าจะต้องแบกรับผ่านค่า ft ซึ่งจะมีการทบทวนและประกาศใหม่ในทุก ๆ 3 เดือน แม้ว่าจะใช้ไฟฟ้าในจำนวนหน่วยเท่าเดิม แต่หากค่า ft ปรับตัวเพิ่มขึ้น ก็มีความเป็นไปได้ที่ค่าไฟจะพุ่งสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 5. การใช้ไฟฟ้าสูงกว่าปกติตามฤดูกาล ในแต่ละเดือนของแต่ละปี จะมีการใช้ไฟฟ้าที่แตกต่างกันออกไป โดยฤดูกาลก็มีผล อย่างฤดูฝนหรือฤดูหนาว ก็จะมีการใช้ไฟฟ้าที่น้อยกว่าฤดูร้อน ซึ่งจะต้องเปิดใช้งานเครื่องปรับอากาศ พัดลมมากกว่าปกติ ซึ่งชุดเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ก็กินไฟสูง จึงเป็นเหตุให้ ค่าไฟแพงมาก กว่าช่วงเวลาอื่น ๆ ได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น เพื่อการหาทางเลือกอื่น ๆ ที่ช่วยให้ประหยัดค่าไฟในฤดูร้อนได้ดี ก็อาจจะเป็นตัวช่วยให้ค่าไฟฟ้าในเวลานั้นไม่สูงเกินกว่าค่าเฉลี่ยทั้งปีได้ ซึ่งจะสามารถช่วยแก้ปัญหาค่าใช้จ่ายสูงได้ จากสาเหตุ ค่าไฟแพงมาก ที่รวบรวมมาคลายความสงสัยให้ทุกคนได้ทราบ เพื่อจะได้วางแผนในการตรวจสอบและแก้ไข โดยหนึ่งทางออกที่ช่วยสยบปัญหานี้ได้อย่างอยู่หมัดก็คือ การเลือกใช้ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มาเป็นตัวช่วย โดยหากท่านใดที่สนใจในการนำระบบโซล่าเซลล์มาใช้งาน แต่เริ่มต้นไม่ถูกว่าจะต้องทำอะไรก่อนดี สามารถขอคำปรึกษาและสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ จากผู้ที่มีความเชี่ยวชาญอย่าง บริษัท โซลาร์ พาวเวอร์ ครีเอชั่น ที่มีทีมวิศวกรและช่างที่มีความเชี่ยวชาญดูแลตลอดระยะเวลาตั้งแต่สำรวจ ติดตั้ง ขออนุญาต ไปจนถึงการบำรุงรักษา โดยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 082-628-2456 หรือแอดไลน์ @Solarpowercreation และเข้าไปอ่านเนื้อหาความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับโซลาร์เซลล์ได้ที่ www.powercreation.co.th และ Facebook : Solar Power Creation
โดย Nung Pr 9 ตุลาคม 2566
เสียงบ่นเรื่องค่าไฟแพงมักจะได้ยินกันอยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน ซึ่งมีอัตราการใช้ไฟฟ้าที่สูงกว่าช่วงอื่น ๆ ในแต่ละปี โดยอาจจะมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่ทราบว่ามีสาเหตุหรือต้นทางมาจากอะไร เราจึงอยากชวนผู้ใช้ไฟทุกคนมาทำความเข้าใจกันว่าปัญหา ค่าไฟแพง 2566 มีปัจจัยใดเป็นตัวสนับสนุน แล้วเราจะหาทางออกให้กับวิกฤติเรื้อรังนี้ยังไงให้เกิดความยั่งยืน เนื่องจากไฟฟ้าถือเป็นพลังงานสำคัญและมีความจำเป็นสำหรับทุกสถานที่ และทุกคน โดยเฉพาะในอนาคตที่คาดว่าจะต้องใช้ในปริมาณเพิ่มสูงขึ้น การมารู้จักสาเหตุ ค่าไฟแพง 2566 จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่จะสร้างทางเลือกใหม่ ๆ ที่จะทำให้ไม่ต้องเครียดกับปัญหาค่าไฟที่ผลักดันให้ค่าครองชีพสูงตามไปด้วย 1. การพึ่งพาและนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างชาติ ที่ไม่สามารถควบคุมราคาได้ การผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยในปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรายังคงพึ่งพาเชื้อเพลิงที่มีแหล่งผลิตอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งทำให้ไม่สามารถควบคุมโครงสร้างราคาได้ โดยเฉพาะหากมีปัจจัยอื่น ๆ เข้ามาสนับสนุน เช่น การหยุดซ่อมแซมเพื่อปรับปรุงระบบขุดเจาะหรือนำส่ง การเกิดภาวะสงครามหรือความขัดแย้งในประเทศนั้น ๆ จำนวนปริมาณพลังงานที่มีจำนวนน้อยลง จนส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหา ค่าไฟแพง 2566 ทั้งสิ้น 2. การใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลส่วนใหญ่ในการเป็นแหล่งพลังงานผลิตไฟฟ้า ระบบโรงผลิตไฟฟ้าส่วนใหญ่ยังคงต้องใช้เชื้อเพลิงจากน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสำคัญในการผลิตไฟฟ้า ทำให้ประเทศไทยต้องแบกรับความเสี่ยงกรณีขาดแคลนเชื้อเพลิงเหล่านี้ ซึ่งต้องมีการหาแหล่งสำรอง ที่อาจจะมีราคาที่สูงขึ้น แต่ด้วยข้อจำกัด จึงต้องมีการจัดซื้อ เพื่อให้มีต้นทุนเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าให้เพียงพอต่อความต้องการของประชากรในประเทศ และไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจการค้าโดยรวม นี่จึงนับเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ส่งผลให้เกิดวิกฤติ ค่าไฟแพง 2566 3. รูปแบบต้นทุนการผลิต ที่ผลักภาระไปสู่ผู้ใช้ไฟฟ้าโดยตรง ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในการผลิตไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นที่ผลิตโดยโรงไฟฟ้าของรัฐ หรือเอกชน จะนำมาคำนวณรวมกันแล้วเฉลี่ยเป็นส่วนประกอบของโครงสร้างค่าไฟฟ้าที่ทุกสถานที่ผู้ใช้ไฟจะต้องแบกรับ ในสัดส่วนที่แตกต่างกันไป แปรผันตามปริมาณการใช้งาน ยิ่งใช้ไฟฟ้ามาก ก็ยิ่งจะต้องจ่ายค่าไฟสูงขึ้น ค่าไฟแพง 2566 ส่วนหนึ่งจึงมาจากรูปแบบต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่จะผลักดันภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไปสู่ผู้ใช้ไฟฟ้าโดยตรง เพื่อไม่ก่อให้เกิดภาระขาดทุนที่ภาครัฐจะต้องแบกรับ หรือนำภาษีที่จัดเก็บได้มาอุดหนุน 4. การสำรองไฟฟ้าไว้ใช้งานในอัตราที่สูงเกินความจำเป็น เพื่อให้เกิดความมั่นคงทางพลังงานไฟฟ้า และไม่ก่อให้เกิดการหยุดชะงัก กรณีเกิดการขาดแคลน รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้ไฟ ไม่ว่าจะเป็นการไฟฟ้าฝ่ายผลิต การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือการไฟฟ้านครหลวง จึงต้องมีการวางแผน เพื่อดำเนินการสำรองกระแสไฟฟ้าไว้ใช้งานให้เพียงต่อ โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน หรือช่วงที่มีการหยุดซ่อมบำรุงของโรงไฟฟ้าบางแห่ง ซึ่งจะทำให้ไฟฟ้าบางส่วนหายไปจากระบบ ทำให้ต้องซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศเข้ามาทดแทน ในบางครั้งอาจจะมีอัตราสำรองที่สูงเกินจริง จึงเป็นหนึ่งในต้นเหตุให้เกิดปัญหา ค่าไฟแพง 2566 5. นโยบายด้านพลังงานที่ไม่สอดคล้องต่อสถานการณ์ เสถียรภาพด้านการเมือง แม้จะไม่ใช่ประเด็นหลักที่จะทำให้เกิดปัญหา ค่าไฟแพง 2566 แต่ก็ไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะนโยบายจากรัฐบาลในแต่ละยุคสมัยก็มีผลผูกพันต่อการทำสัญญาซื้อขาย และการวางแผนเพื่อรองรับการใช้ไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เมื่อมีการปรับเปลี่ยนรัฐบาล หรือผู้มีอำนาจในการสั่งการ ก็มักจะเป็นส่วนหนึ่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแนวคิดในการดำเนินการ ซึ่งอาจจะกระทบกระเทือน และไม่สอดคล้องต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ ค่าไฟแพง 2566 จึงมีสาเหตุหรือต้นทางมาจากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น โดยอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยคลี่คลายปัญหานี้ได้อย่างยั่งยืน ก็คือ การหันมาใช้พลังงานทางเลือกอย่างแสงอาทิตย์ในการผลิตไฟฟ้าผ่านระบบโซล่าเซลล์ โดยสำหรับท่านใดที่สนใจในการนำระบบโซล่าเซลล์มาใช้งาน สามารถขอคำปรึกษาและสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ จากผู้ที่มีความเชี่ยวชาญอย่าง บริษัท โซลาร์ พาวเวอร์ ครีเอชั่น บริษัทชั้นนำด้านการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ที่มีประสบการณ์มากว่า 20 ปี มีทีมวิศวกรและช่างที่มีความเชี่ยวชาญดูแลตลอดระยะเวลาตั้งแต่สำรวจ ติดตั้ง ขออนุญาต ไปจนถึงการบำรุงรักษา โดยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 082-628-2456 หรือแอดไลน์ @Solarpowercreation และเข้าไปอ่านเนื้อหาความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับโซลาร์เซลล์ได้ที่ www.powercreation.co.th และ Facebook : Solar Power Creation
โพสเพิ่มเติม