สรุป 4 เทคนิค เลือกขนาดของแผงโซลาร์เซลล์อย่างไร ให้เหมาะสมกับการใช้งาน
เทคนิคสำคัญในการเลือกขนาดของแผงโซลาร์เซลล์ให้เหมาะกับการใช้งาน

การติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าขึ้นมาใช้นั้น แผงโซลาร์เซลล์ มีส่วนสำคัญในการทำให้การใช้งานมีประสิทธิภาพ โดยต้องเลือกขนาดให้สอดคล้องต่อการใช้งาน เพื่อให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้ในปริมาณที่ครอบคลุมต่อการนำไปใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆภายในบ้าน ลดค่าค่าไฟในระยะยาว สำหรับบุคคลทั่วไป อาจจะยังสับสนหรือสงสัยว่า แล้วจะเลือกขนาดของแผงโซลาร์เซลล์อย่างไร ให้เหมาะสมกับการใช้งานในรูปแบบที่ต้องการ เรามี 4 เทคนิคดีๆ ที่จะช่วยเป็นเงื่อนไขในการพิจารณามาแนะนำกัน
1. พิจารณาเลือกจากขนาดและน้ำหนักของแผงโซลาร์เซลล์

ก่อนที่จะทำการเลือกแผงโซลาร์เซลล์นั้น ผู้ต้องการติดตั้งต้องทราบจุดประสงค์ก่อนว่า จะนำไปใช้กับการใช้งานรูปแบบไหน เป็นแบบติดตั้งยึดกับสถานที่ในระยะยาว เช่น การติดตั้งบนหลังคาอาคาร บนสระน้ำ หรือจะเป็นรูปแบบการใช้งานที่สามารถเคลื่อนที่ได้ เช่น การใช้กับพื้นที่เกษตร กิจกรรมแคมป์ปิ้ง หรือรถบ้าน โดยตัวแปรที่จะเข้ามามีผลต่อการตัดสินใจคือ ขนาด และน้ำหนักของแผง ซึ่งยิ่งแผงที่ให้กำลังไฟหรือโวลต์สูงๆ ก็จะยิ่งมีน้ำหนักที่สูงขึ้นตามไปด้วย สำหรับการติดตั้งแบบถาวรนั้น สามารถใช้ขนาดใหญ่และน้ำหนักมากได้ เนื่องจากการติดตั้งบนโครงหลังคามีความแข็งแรงพอสมควรที่จะรับน้ำหนักแผงได้ ส่วนรูปแบบที่ต้องมีการเคลื่อนย้าย จำเป็นต้องเลือกที่มีน้ำหนักเบา ง่ายต่อการเคลื่อนย้าย เช่น ขนาดไม่เกิน 200 โวลต์ หรือขนาด 150 x 70 เซนติเมตร น้ำหนัก 10 กิโลกรัม
2. พิจารณาจากจำนวนโวลต์และแอมป์ของแผงโซลาร์เซลล์ และระบบควบคุม
อีกหนึ่งปัจจัยที่มีส่วนในการนำมาใช้ในการตัดสินใจเลือกขนาดของแผงโซลาร์เซลล์ ก็คือ จำนวนแรงดันไฟฟ้า หรือโวลต์ และปริมาณกระแสไฟที่ไหลผ่านเข้าตัวนำหรืออุปกรณ์ไฟฟ้า หรือแอมป์ โดย 2 ส่วนนี้ต้องมีความสัมพันธ์สอดคล้องกัน โดยเฉพาะระบบที่ต้องมีการชาร์ตไฟเก็บไว้ในแบตเตอรี่หรือระบบออฟฟกริด หากจำนวนโวลต์ของระบบสูงกว่า จำนวนโวลต์ของแผง จำเป็นต้องลดขนาดโวลต์ของระบบลงมาให้สอดคล้องกัน เช่นเดียวกับปริมาณแอมป์ ควรเลือกแผงให้สอดคล้องต่อปริมาณที่ Solar Charge Controller รับได้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับระบบ

3. พิจารณาเลือกจากชนิดของแผง และดูให้แน่ชัดว่าของแท้หรือของปลอม
แผงโซลาร์เซลล์ แต่ละชนิดจะมีประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าที่แตกต่างกัน การเลือกขนาดของแผง จึงต้องคำนึงถึงจุดนี้ด้วย เพราะบางชนิดประสิทธิภาพต่ำกว่า เช่น แผงโพลิคริสตัลไลน์ มีประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าต่ำกว่าแผงประเภทโมโนคริสตัลไลน์ แต่จะมีราคาที่ถูกกว่า การติดตั้งจึงจำเป็นต้องเลือกชนิดและขนาดของแผงให้เหมาะสม เพราะหากติดตั้งจำนวนน้อยไป ก็อาจจะส่งผลให้ไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ในปริมาณที่ครอบคลุมความต้องการ นอกจากนั้นควรตรวจสอบคุณภาพของแผงโซลาร์เซลล์ด้วยว่าเป็นของแท้หรือไม่ โดยให้สังเกตจากสติ๊กเกอร์ ข้อมูลสินค้าที่ติดอยู่บนแผง โลโก้ที่ติดอยู่บนกล่องบรรจุภัณฑ์ และหนังสือรับรองประกันคุณภาพจากทางร้าน

4. พิจารณาเลือกจากการนำไปใช้กับระบบออฟกริด หรือออนกริด
สำหรับการเลือกขนาดของแผงโซลาร์เซลล์เพื่อนำไปใช้ในรูปแบบออฟกริด หรือการชาร์ตไฟฟ้าเก็บไว้ในแบตเตอรี่เพื่อใช้งานนั้น จำเป็นต้องมีการคำนวณปริมาณการใช้ไฟฟ้าจากเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอย่างละเอียด โดยนำตัวเลขที่ฉลากของเครื่องใช้ไฟฟ้ามารวมกัน เพื่อค้นหาวัตต์ แล้วนำมาคูณด้วยจำนวนชั่วโมงที่มีการเปิดใช้งานต่อวัน เมื่อได้ตัวเลขมาแล้วจึงจะนำมาเทียบหาขนาดและจำนวนแผงที่ต้องนำมาติดตั้งเพื่อให้มีไฟฟ้าใช้เพียงพอ ส่วนในรูปแบบออนกริด ซึ่งมีการเชื่อมต่อกับระบบสายส่งของการไฟฟ้านั้น หากไฟฟ้าจากระบบโซลาร์เซลล์ไม่เพียงพอ ก็ยังสามารถดึงไฟจาการไฟฟ้ามาใช้แทนได้ ส่วนที่จะนำมาพิจารณาก็คือการลดต้นทุนค่าไฟฟ้า โดยพิจารณาจากจำนวนหน่วยที่ใช้ในแต่ละเดือน ซึ่งแสดงอยู่ในใบเสร็จค่าไฟ การเลือกขนาดแผง จึงต้องสอดคล้องต่อความต้องการในการลดค่าใช้จ่ายค่าไฟในแต่ละเดือนนั่นเอง

จะเห็นได้ว่า เป้าหมายความต้องการสำหรับการใช้งานในแต่ละรูปแบบ มีผลอย่างยิ่งต่อการนำมาพิจารณาเลือกซื้อแผงโซลาร์เซลล์ ให้มีขนาด และปริมาณที่เหมาะสม ทั้งต่อพื้นที่ และงบประมาณ ซึ่งหากไม่มีความเชี่ยวชาญ ก็อาจจะทำให้เกิดความสับสนขึ้นได้ ทางที่ดี ควรให้บริษัทผู้ที่มีประสบการณ์มาช่วยในการคำนวณออกแบบให้จะมีประสิทธิภาพ และคุ้มค่ากว่า โดยท่านใดสนใจที่จะติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ สามารถขอรับคำปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญอย่างบริษัท โซลาร์ พาวเวอร์ ครีเอชั่น บริษัทที่ปรึกษาและให้บริการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์แบบครบวงจร โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
โทร : 082-628-2456
Line ID : @solarpowercreation หรือคลิกที่ Link นี้
Facebook : Solar Power Creation
หมอโซลาร์พร้อมให้คำแนะนำ แบบไม่มีกั๊ก ที่ครบ จบที่เดียวแน่นอนครับ

