รวม 5 ปัจจัยที่มีผลต่อการใช้งาน โซล่าเซลล์ชาร์ตแบต รถยนต์ไฟฟ้า ที่ผู้ใช้งานควรรู้

ยานพาหนะในปัจจุบันแม้ว่าส่วนใหญ่ยังใช้ระบบน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นแหล่งพลังงานในการขับเคลื่อน แต่กระแสการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่ช่วยลดมลพิษจากการเผาไหม้ ทำให้ลดปัจจัยในการเกิดสภาวะโลกร้อน ก็กำลังเป็นที่นิยม มีบริษัทผู้ผลิตรถยนต์หลาย ๆ แบรนด์ที่ทยอยเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ๆ มาให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อ โดยอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยให้ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV ได้ประหยัดต้นทุนค่าไฟ ก็คือ การนำ โซล่าเซลล์ชาร์ตแบต มาใช้ ซึ่งเป็นการนำพลังงานสะอาดมาใช้งานกับยานพาหนะได้แบบครบวงจรตั้งแต่ต้นทาง ซึ่งประสิทธิภาพ และความเร็วในการชาร์ตไฟฟ้าเข้าสู่แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้านั้นมีปัจจัยใดบ้างที่เป็นตัวกำหนด และทำให้เกิดความสะดวก ปลอดภัย และใช้งานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งผู้ที่ต้องการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าไว้ใช้งานควรศึกษาไว้ มาติดตามกันได้เลย
1. ขนาด หรือความจุของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า
สำหรับอัตราหรือความเร็วในการประจุไฟฟ้าด้วยระบบ โซล่าเซลล์ชาร์ตแบต สำหรับใช้งานกับรถยนต์ EV นั้น ขนาดหรือความจุของแบตเตอรี่เป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีผลเป็นอย่างมาก โดยหากเป็นแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ ก็จะต้องใช้เวลามากขึ้นในการชาร์ต แต่ก็จะสามารถใช้งานได้นาน และวิ่งได้ในระยะทางที่ไกลขึ้นก่อนจะต้องกลับมาชาร์ตอีกครั้ง โดยขนาดแบตเตอรี่ของรถยนต์ EV รุ่นท๊อป ๆ ในตลาดจะอยู่ที่ 100 KWH ซึ่งจะวิ่งได้ไกลกว่า 600 กิโลเมตรขึ้นไป
2. สถานะของแบตเตอรี่ที่ทำการเก็บไฟ
โซล่าเซลล์ชาร์ตแบต จะช่วยให้การประจุไฟฟ้าเข้าสู่รถยนต์ EV ได้ มีประสิทธิภาพเร็วขึ้น หากไม่ใช้งานจนแบตเตอรี่ใกล้หมด โดยควรกะระยะทางที่จะใช้งานเหมาะสมต่อการชาร์ต เพื่อกลับมาประจุไฟฟ้าในระดับที่แบตไม่ต่ำจนเกินไป ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลานานในการชาร์ตให้เต็ม นอกจากนั้นยังเป็นการถนอมแบตเตอรี่ให้มีอายุการใช้งานที่นานขึ้น เกิดการเสื่อมสภาพช้าลง ที่มีผลมาจากแรงดันจากการประจุไฟฟ้าในแต่ละครั้ง
3. กำลังไฟสูงสุดที่รถยนต์ไฟฟ้าสามารถจัดเก็บได้
อีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลต่อความเร็วหรือช้า รวมถึงอัตราการชาร์ตพลังงานเข้าสู่รถยนต์ EV ก็คือ ศักยภาพในการรองรับไฟฟ้าสูงสุดที่รถยนต์แต่ละคันรองรับได้ โดยหากมีประสิทธิภาพในการดึงไฟฟ้าเข้าสู่ตัวรถยนต์ได้สูง ระบบ โซล่าเซลล์ชาร์ตแบต ก็จะสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบจัดเก็บได้รวดเร็วมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ในการชาร์ตไฟแต่ละครั้ง ไม่ต้องรอนาน ใช้ระยะเวลาเพียงสั้น ๆ ก็สามารถนำไปขับต่อได้ทันที
4. ประสิทธิภาพของระบบโซล่าเซลล์
นอกจากปัจจัยที่มาจากตัวรถยนต์โดยตรงแล้ว ระบบ โซล่าเซลล์ชาร์ตแบต ก็เป็นอีกหนึ่งตัวแปรในการส่งเสริมความเร็ว หรือประสิทธิภาพในการประจุไฟฟ้า โดยหากแผงโซล่าเซลล์ และระบบควบคุมการชาร์ตสามารถทำงานได้ดี ผลิตไฟฟ้าได้เต็มศักยภาพต่อเนื่อง ก็จะทำให้ไฟฟ้าที่ประจุเข้าสู่รถยนต์ EV เต็มอย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลาเพียงไม่นาน แต่หากระบบผลิตไฟฟ้าทำงานได้ต่ำ มีไฟฟ้าไหลเข้าระบบน้อย ก็จะส่งกระทบทำให้การชาร์ตรถยนต์ทำงานได้ช้าลงไปด้วย
5. สภาพอากาศ
อีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการชาร์ตรถยนต์ไฟฟ้าเช่นกัน ก็คือ อุณหภูมิหรือสภาพอากาศภายนอก โดยหากมีความร้อนสูง ก็จะส่งผลให้ต้องใช้เวลาในการชาร์ตมากขึ้น แต่หากเป็นแสงแดดจัด ๆ ก็จะส่งผลดีที่จะทำให้ระบบผลิตไฟฟ้า โซล่าเซลล์ชาร์ตแบต ทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ มีไฟฟ้าเข้าสู่ระบบเพิ่มมากขึ้น ทำให้อัตราการจ่ายไฟฟ้าประจุในแบตเตอรี่รถยนต์สูงตามไปด้วย
สิ่งที่นำมาบอกเล่ากันนี้ เป็นส่วนหนึ่งของปัจจัยที่มีผลต่อการนำ โซล่าเซลล์ชาร์ตแบต รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งผู้ที่กำลังพิจารณาต้องการติดตั้งระบบเพื่อไว้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือสำนักงานจำเป็นต้องศึกษาและพิจารณา เพื่อให้สามารถบริหารจัดการให้เกิดประสิทธิภาพ ส่งเสริมสนับสนุนในการนำรถยนต์ EV มาใช้ เพื่อลดการก่อมลพิษแก่โลก โดยผู้ที่สนใจหากยังมีข้อสงสัยในด้านการออกแบบติดตั้งระบบโซล่าเซลล์เพิ่มเติมสามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่ บริษัท โซลาร์ พาวเวอร์ ครีเอชั่น บริษัทชั้นนำด้านการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ที่มีประสบการณ์มากว่า 20 ปี มีทีมวิศวกรและช่างที่มีความเชี่ยวชาญดูแลตลอดระยะเวลาตั้งแต่สำรวจ ติดตั้ง ขออนุญาต ไปจนถึงการบำรุงรักษา โดยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 082 – 6282456 หรือแอดไลน์ @Solarpowercreation และเข้าไปอ่านเนื้อหาความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับโซลาร์เซลล์ได้ที่ www.powercreation.co.th และ Facebook : Solar Power Creation

