พลังงานแสงอาทิตย์โซล่าเซลล์ กับโลกใหม่ที่ไม่มีวันเหมือนเดิม

ทุกวันนี้เทคโนโลยีสมัยใหม่ได้เข้ามาทำให้หลาย ๆ สิ่งบนโลกนี้ทยอยเปลี่ยนไป บางอย่างแทบไม่เห็นเค้าโครงเดิมเลยด้วยซ้ำ พลังงานแสงอาทิตย์โซล่าเซลล์ เป็นอีกด้านที่กำลังได้รับความสนใจ และมีการพัฒนานวัตกรรมสมัยใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น จากปัจจัยในการตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม โลกร้อน รวมไปถึงต้นทุนค่าไฟฟ้าที่ทยอยปรับตัวสูงขึ้น ในอนาคตอีกไม่ช้านี้ เราคงได้เห็นอะไรใหม่ ๆ ที่จะทำให้มีโอกาสได้ใช้ไฟฟ้าที่ผลิตได้จากแสงอาทิตย์ และสามารถสามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์อีกมากมาย ซึ่งกระแสความเปลี่ยนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้ามีอะไรบ้าง มาติดตามไปพร้อมกัน
1. พลังงานแสงอาทิตย์โซล่าเซลล์ที่เชื่อมโยงเทคโนโลยี AI, IOT, Cloud เข้าด้วยกัน
ในต่างประเทศ มีนักวิจัยจากสถาบัน รวมไปถึงบริษัทต่าง ๆ พยายามคิดค้น และสร้างนวัตกรรมที่แตกต่าง เพื่อให้มนุษย์มีไฟฟ้าใช้จากพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีประสิทธิภาพ และสามารถเชื่อมโยงเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI, เทคโนโลยี Internet Of Thing (IOT) ที่อุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ต่าง ๆ สามารถสื่อสารส่งต่อข้อมูลรับคำสั่งซึ่งกันและกันได้ นอกจากนั้นยังรวมไปถึงเทคโนโลยี Cloud Computing ที่สามารถเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นคลังขนาดใหญ่ ที่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลถึงกันได้ตลอด 24 ชั่วโมง พลังงานแสงอาทิตย์โซล่าเซลล์ ในอนาคตข้างหน้าจึงก้าวล้ำไปอย่างที่หลายค้นอาจจะไม่คาดคิด
2. วันที่โรงไฟฟ้าพึ่งพามนุษย์น้อยลง
ใครจะไปรู้ว่าในอนาคต โรงไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์โซล่าเซลล์ จะสามารถผลิตไฟฟ้าให้กับคนทั้งประเทศ หรือข้ามไปยังต่างประเทศ โดยอาศัยผู้เชี่ยวชาญเพียงไม่กี่คน หรือแม้กระทั่งควบคุมด้วยระบบ AI ทั้งหมด มีการคาดการณ์กันว่า ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นให้มีประสิทธิภาพ ในการเรียนรู้ และตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ จะถูกนำมาแทนที่มนุษย์ที่อาจจะมีความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ นอกจากนั้นยังจะมีการนำโดรน หรืออากาศยานไร้คนขับ และหุ่นยนต์ มาทำหน้าที่แทนในจุดที่เสี่ยงอันตราย ในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่มีขนาดใหญ่ และต้องปรับปรุงซ่อมแซมแก้ไข เพื่อลดความเสี่ยงแก่มนุษย์
3. ความปลอดภัยและการลดความเสี่ยงยังเป็นความท้าทายที่ต้องพัฒนา
ในกรณีที่เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเกิดภัยพิบัติ หรืออัคคีภัย ที่ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อโรงไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์โซล่าเซลล์ ระบบการตัดวงจรกอาร์กฟอลต์ เป็นสิ่งที่มีความจำเป็น เพื่อป้องกันอันตรายแก่ผู้ที่เข้าไปดำเนินการแก้ไข ซึ่งนี่จะเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมโซล่าเซลล์ที่ทั่วโลกจำเป็นต้องมี โดยเฉพาะการติดตั้งระบบโซล่าเซลล์บนหลังคาอาคาร หรือดาดฟ้า ที่ต้องมีระบบป้องกันที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน รวมไปถึงผู้ดูแลระบบ และซ่อมบำรุง
4. การออกแบบชิ้นส่วน อุปกรณ์จะถูกปรับให้ใช้งานง่าย และยืดหยุ่นขึ้น
ในอนาคตที่มีจะมีการนำ พลังงานแสงอาทิตย์โซล่าเซลล์ ไม่ว่าจะเป็นในระดับโรงงานอุตสาหกรรม หน่วยงานบริษัทขนาดใหญ่ หรือแม้แต่ในระดับครัวเรือน นักออกแบบยุคใหม่ จึงใส่ใจที่จะออกแบบชิ้นส่วน รวมไปถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแผงโซล่าเซลล์ Inverter หรือตัวแปลงไฟฟ้า Solar Charge Controller หรือตัวควบการประจุไฟฟ้าเข้าสู่ตัวแบตเตอรี่ จะถูกปรับให้สามารถประกอบ และใช้งานได้งาน ยืดหยุ่นในการนำไปประยุกต์ใช้กับอุปกรณ์ต่าง ๆที่เกี่ยวข้อง
5. บริหารจัดการข้อมูลผู้ใช้งานโรงพลังงานแสงอาทิตย์โซล่าเซลล์ รักษาความน่าเชื่อถือ ไว้วางใจ
ในอนาคตที่โรงไฟฟ้าแบบเดิม ๆ อาจจะทยอยลดบทบาทลง โรงไฟฟ้าที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์โซล่าเซลล์จะมีความสำคัญ และมีผู้ใช้งานมากขึ้น สถิติข้อมูลการใช้ไฟฟ้าของแต่ละบ้าน รวมไปถึงเทคโนโลยีอุปกรณ์ที่ได้มีการติดตั้ง จะต้องได้รับการป้องกันและบริหารจัดการข้อมูลอย่างเป็นระบบ เพื่อลดความเสี่ยงในการสร้างความเสียหายต่อเครือข่ายที่เชื่อมโยงการใช้งานไฟฟ้าไปยังพื้นที่ต่าง ๆ
พลังงานแสงอาทิตย์โซล่าเซลล์ ถือได้ว่าจะเป็นเทรนด์พลังงานที่มาแรงต่อเนื่อง ในยุคที่ทุกคนต่างให้ความสำคัญต่อการปกป้องโลกจากภาวะโลกร้อน และปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สร้างผลกระทบรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ การติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าโซล่าเซลล์ไว้ใช้เอง นอกจากจะมีไฟฟ้าไว้ใช้งานแบบฟรี ๆ แล้ว ยังสามารถมีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อมไปในเวลาเดียวกันด้วย สำหรับผู้ที่สนใจสามารถขอคำแนะนำจากบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านโซล่าเซลล์โดยตรงอย่าง บริษัท โซลาร์ พาวเวอร์ ครีเอชั่น ที่มีทีมงานคุณภาพ มีประสบการณ์มากว่า 20 ปี ให้บริการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์แบบครบวงจร สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 082 – 6282456 หรือแอดไลน์ @Solarpowercreation และติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.powercreation.co.th และ Facebook : Solar Power Creation

