พลังงานแสงอาทิตย์โซล่าเซลล์ กับโลกใหม่ที่ไม่มีวันเหมือนเดิม

Nung Pr • 25 ตุลาคม 2565
พลังงานแสงอาทิตย์โซลาร์เซลล์

ทุกวันนี้เทคโนโลยีสมัยใหม่ได้เข้ามาทำให้หลาย ๆ สิ่งบนโลกนี้ทยอยเปลี่ยนไป บางอย่างแทบไม่เห็นเค้าโครงเดิมเลยด้วยซ้ำ พลังงานแสงอาทิตย์โซล่าเซลล์ เป็นอีกด้านที่กำลังได้รับความสนใจ และมีการพัฒนานวัตกรรมสมัยใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น จากปัจจัยในการตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม โลกร้อน รวมไปถึงต้นทุนค่าไฟฟ้าที่ทยอยปรับตัวสูงขึ้น ในอนาคตอีกไม่ช้านี้ เราคงได้เห็นอะไรใหม่ ๆ ที่จะทำให้มีโอกาสได้ใช้ไฟฟ้าที่ผลิตได้จากแสงอาทิตย์ และสามารถสามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์อีกมากมาย ซึ่งกระแสความเปลี่ยนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้ามีอะไรบ้าง มาติดตามไปพร้อมกัน

1. พลังงานแสงอาทิตย์โซล่าเซลล์ที่เชื่อมโยงเทคโนโลยี AI, IOT, Cloud เข้าด้วยกัน

ในต่างประเทศ มีนักวิจัยจากสถาบัน รวมไปถึงบริษัทต่าง ๆ พยายามคิดค้น และสร้างนวัตกรรมที่แตกต่าง เพื่อให้มนุษย์มีไฟฟ้าใช้จากพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีประสิทธิภาพ และสามารถเชื่อมโยงเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI, เทคโนโลยี Internet Of  Thing (IOT) ที่อุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ต่าง ๆ สามารถสื่อสารส่งต่อข้อมูลรับคำสั่งซึ่งกันและกันได้ นอกจากนั้นยังรวมไปถึงเทคโนโลยี Cloud Computing ที่สามารถเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นคลังขนาดใหญ่ ที่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลถึงกันได้ตลอด 24 ชั่วโมง พลังงานแสงอาทิตย์โซล่าเซลล์ ในอนาคตข้างหน้าจึงก้าวล้ำไปอย่างที่หลายค้นอาจจะไม่คาดคิด

2. วันที่โรงไฟฟ้าพึ่งพามนุษย์น้อยลง

ใครจะไปรู้ว่าในอนาคต โรงไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์โซล่าเซลล์ จะสามารถผลิตไฟฟ้าให้กับคนทั้งประเทศ หรือข้ามไปยังต่างประเทศ โดยอาศัยผู้เชี่ยวชาญเพียงไม่กี่คน หรือแม้กระทั่งควบคุมด้วยระบบ AI ทั้งหมด มีการคาดการณ์กันว่า ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นให้มีประสิทธิภาพ ในการเรียนรู้ และตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ จะถูกนำมาแทนที่มนุษย์ที่อาจจะมีความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ นอกจากนั้นยังจะมีการนำโดรน หรืออากาศยานไร้คนขับ และหุ่นยนต์ มาทำหน้าที่แทนในจุดที่เสี่ยงอันตราย ในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่มีขนาดใหญ่ และต้องปรับปรุงซ่อมแซมแก้ไข เพื่อลดความเสี่ยงแก่มนุษย์

3. ความปลอดภัยและการลดความเสี่ยงยังเป็นความท้าทายที่ต้องพัฒนา

ในกรณีที่เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเกิดภัยพิบัติ หรืออัคคีภัย ที่ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อโรงไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์โซล่าเซลล์ ระบบการตัดวงจรกอาร์กฟอลต์ เป็นสิ่งที่มีความจำเป็น เพื่อป้องกันอันตรายแก่ผู้ที่เข้าไปดำเนินการแก้ไข ซึ่งนี่จะเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมโซล่าเซลล์ที่ทั่วโลกจำเป็นต้องมี โดยเฉพาะการติดตั้งระบบโซล่าเซลล์บนหลังคาอาคาร หรือดาดฟ้า ที่ต้องมีระบบป้องกันที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน รวมไปถึงผู้ดูแลระบบ และซ่อมบำรุง 

4. การออกแบบชิ้นส่วน อุปกรณ์จะถูกปรับให้ใช้งานง่าย และยืดหยุ่นขึ้น

ในอนาคตที่มีจะมีการนำ พลังงานแสงอาทิตย์โซล่าเซลล์ ไม่ว่าจะเป็นในระดับโรงงานอุตสาหกรรม หน่วยงานบริษัทขนาดใหญ่ หรือแม้แต่ในระดับครัวเรือน นักออกแบบยุคใหม่ จึงใส่ใจที่จะออกแบบชิ้นส่วน รวมไปถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแผงโซล่าเซลล์  Inverter หรือตัวแปลงไฟฟ้า Solar Charge Controller หรือตัวควบการประจุไฟฟ้าเข้าสู่ตัวแบตเตอรี่ จะถูกปรับให้สามารถประกอบ และใช้งานได้งาน ยืดหยุ่นในการนำไปประยุกต์ใช้กับอุปกรณ์ต่าง ๆที่เกี่ยวข้อง

5. บริหารจัดการข้อมูลผู้ใช้งานโรงพลังงานแสงอาทิตย์โซล่าเซลล์ รักษาความน่าเชื่อถือ ไว้วางใจ

ในอนาคตที่โรงไฟฟ้าแบบเดิม ๆ อาจจะทยอยลดบทบาทลง โรงไฟฟ้าที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์โซล่าเซลล์จะมีความสำคัญ และมีผู้ใช้งานมากขึ้น สถิติข้อมูลการใช้ไฟฟ้าของแต่ละบ้าน รวมไปถึงเทคโนโลยีอุปกรณ์ที่ได้มีการติดตั้ง จะต้องได้รับการป้องกันและบริหารจัดการข้อมูลอย่างเป็นระบบ เพื่อลดความเสี่ยงในการสร้างความเสียหายต่อเครือข่ายที่เชื่อมโยงการใช้งานไฟฟ้าไปยังพื้นที่ต่าง ๆ

พลังงานแสงอาทิตย์โซล่าเซลล์  ถือได้ว่าจะเป็นเทรนด์พลังงานที่มาแรงต่อเนื่อง ในยุคที่ทุกคนต่างให้ความสำคัญต่อการปกป้องโลกจากภาวะโลกร้อน และปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สร้างผลกระทบรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ การติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าโซล่าเซลล์ไว้ใช้เอง นอกจากจะมีไฟฟ้าไว้ใช้งานแบบฟรี ๆ แล้ว ยังสามารถมีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อมไปในเวลาเดียวกันด้วย สำหรับผู้ที่สนใจสามารถขอคำแนะนำจากบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านโซล่าเซลล์โดยตรงอย่าง บริษัท โซลาร์ พาวเวอร์ ครีเอชั่น ที่มีทีมงานคุณภาพ มีประสบการณ์มากว่า 20 ปี ให้บริการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์แบบครบวงจร สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 082 – 6282456 หรือแอดไลน์ @Solarpowercreation และติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.powercreation.co.th และ Facebook : Solar Power Creation

โดย Nung Pr 8 มกราคม 2567
หยุดทำให้โซลาร์ ต้องกลายเป็นผู้ต้องหากันเถอะ
โดย Nung Pr 9 ตุลาคม 2566
ในแต่ละเดือน ทุกครอบครัวจะมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันออกไป แต่มีหนึ่งสิ่งที่ทุกสถานที่ต้องจ่ายเช่นเดียวกัน ก็คือ ค่าไฟฟ้า ซึ่งยิ่งใช้มาก ก็จะมียอดเรียกเก็บในแต่ละเดือนสูงขึ้น โดยเฉพาะในทุกวันนี้ที่หลาย ๆ แห่งประสบปัญหา ค่าไฟแพงมาก จนอยากหาทางออก ที่ไม่ใช่แค่การประหยัดไฟ ซึ่งบางครั้งก็รบกวนสร้างความยุ่งยาก ลำบาก ไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร โดยการหาทางแก้อย่างยั่งยืนได้นั้น ก็ต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าสาเหตุของวิกฤติ ค่าไฟแพงมาก นั้นมาจากอะไร ซึ่งคงมีหลายคนที่สงสัย และต้องการหาคำตอบว่ามีต้นทางมาจากอะไร เราจึงอยากชวนมาทำความเข้าใจ ให้กระจ่างกัน 1. ความผิดปกติของการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิด ปัญหา ค่าไฟแพงมาก อาจจะมีหนึ่งในสาเหตุมาจากการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิดมากกว่าผิดปกติ หรือเป็นไปได้ว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าธรรมดาจะเกิดความเสื่อมสภาพภายใน จนทำให้กินไฟมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์รุ่นเก่า ๆ ที่ใช้งานมานาน และไม่ได้มีการพัฒนาใช้เทคโนโลยีประหยัดไฟฟ้าซึ่งเป็นนวัตกรรมสมัยใหม่ ซึ่งหากพบว่ามาจากสาเหตุนี้ ก็ควรมีการเปลี่ยนแปลงซ่อมแซม หรือซื้อเครื่องใหม่ที่ใช้งานได้เป็นปกติทดแทน ซึ่งจะช่วยให้สามารถประหยัดไฟฟ้า และช่วยลดค่าไฟให้ต่ำลงได้ 2. เกิดไฟฟ้ารั่วในบางจุด หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าตามปกติ ไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงใด ๆไม่ได้ทำกิจกรรมหรือจัดงานอะไรพิเศษที่มีการใช้ไฟฟ้ามากกว่าธรรมดา ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าปัญหา ค่าไฟแพงมาก จะมีสาเหตุมาจากเกิดไฟฟ้ารั่วไหลในบางจุด ซึ่งมีการเสื่อมสภาพของสายไฟ หรือมีสัตว์ต่าง ๆ เช่น หนูมากัดแทะสายไฟ จนทำให้เกิดปัญหาไฟฟ้าช๊อต และไหลออกโดยไม่ได้ใช้งาน หากมีการตรวจสอบที่ชัดเจนแล้ว ก็ควรเร่งติดต่อช่างไฟฟ้ามาดำเนินการซ่อมแซมแก้ไข ไม่ควรดำเนินการเอง หากไม่มีความชำนาญ 3. ความผิดพลาดของบุคคลที่เกี่ยวข้อง บางครั้งปัญหา ค่าไฟแพงมาก ก็อาจจะไม่ได้มาจากสาเหตุภายในสถานที่ซึ่งใช้ไฟฟ้านั้น ๆ ก็เป็นไปได้หลายครั้งที่พบว่าเกิดจากความผิดพลาดของผู้เกี่ยวข้องในระบบจัดการคิดคำนวณค่าไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นผู้ทำหน้าที่จดมิเตอร์ หรือระบบในการจัดส่งข้อมูล ซึ่งทำให้ยอดที่แสดงผลในบิลค่าไฟฟ้ารายเดือนผิดแผกแตกต่างไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งจะต้องมีการแจ้งให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเร่งตรวจสอบ เพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ของตนเอง และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการรับผิดชอบแก้ไข 4. การปรับตัวของต้นทุนพลังงานในการผลิตไฟฟ้า อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่เป็นต้นตอของปัญหา ค่าไฟแพงมาก ก็มาจากการปรับตัวของต้นทุนเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหินรวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างซ่อมแซมโรงไฟฟ้าที่ถูกผลักมาเป็นค่าใช้จ่ายที่ผู้ใช้ไฟฟ้าจะต้องแบกรับผ่านค่า ft ซึ่งจะมีการทบทวนและประกาศใหม่ในทุก ๆ 3 เดือน แม้ว่าจะใช้ไฟฟ้าในจำนวนหน่วยเท่าเดิม แต่หากค่า ft ปรับตัวเพิ่มขึ้น ก็มีความเป็นไปได้ที่ค่าไฟจะพุ่งสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 5. การใช้ไฟฟ้าสูงกว่าปกติตามฤดูกาล ในแต่ละเดือนของแต่ละปี จะมีการใช้ไฟฟ้าที่แตกต่างกันออกไป โดยฤดูกาลก็มีผล อย่างฤดูฝนหรือฤดูหนาว ก็จะมีการใช้ไฟฟ้าที่น้อยกว่าฤดูร้อน ซึ่งจะต้องเปิดใช้งานเครื่องปรับอากาศ พัดลมมากกว่าปกติ ซึ่งชุดเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ก็กินไฟสูง จึงเป็นเหตุให้ ค่าไฟแพงมาก กว่าช่วงเวลาอื่น ๆ ได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น เพื่อการหาทางเลือกอื่น ๆ ที่ช่วยให้ประหยัดค่าไฟในฤดูร้อนได้ดี ก็อาจจะเป็นตัวช่วยให้ค่าไฟฟ้าในเวลานั้นไม่สูงเกินกว่าค่าเฉลี่ยทั้งปีได้ ซึ่งจะสามารถช่วยแก้ปัญหาค่าใช้จ่ายสูงได้ จากสาเหตุ ค่าไฟแพงมาก ที่รวบรวมมาคลายความสงสัยให้ทุกคนได้ทราบ เพื่อจะได้วางแผนในการตรวจสอบและแก้ไข โดยหนึ่งทางออกที่ช่วยสยบปัญหานี้ได้อย่างอยู่หมัดก็คือ การเลือกใช้ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มาเป็นตัวช่วย โดยหากท่านใดที่สนใจในการนำระบบโซล่าเซลล์มาใช้งาน แต่เริ่มต้นไม่ถูกว่าจะต้องทำอะไรก่อนดี สามารถขอคำปรึกษาและสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ จากผู้ที่มีความเชี่ยวชาญอย่าง บริษัท โซลาร์ พาวเวอร์ ครีเอชั่น ที่มีทีมวิศวกรและช่างที่มีความเชี่ยวชาญดูแลตลอดระยะเวลาตั้งแต่สำรวจ ติดตั้ง ขออนุญาต ไปจนถึงการบำรุงรักษา โดยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 082-628-2456 หรือแอดไลน์ @Solarpowercreation และเข้าไปอ่านเนื้อหาความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับโซลาร์เซลล์ได้ที่ www.powercreation.co.th และ Facebook : Solar Power Creation
โดย Nung Pr 9 ตุลาคม 2566
เสียงบ่นเรื่องค่าไฟแพงมักจะได้ยินกันอยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน ซึ่งมีอัตราการใช้ไฟฟ้าที่สูงกว่าช่วงอื่น ๆ ในแต่ละปี โดยอาจจะมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่ทราบว่ามีสาเหตุหรือต้นทางมาจากอะไร เราจึงอยากชวนผู้ใช้ไฟทุกคนมาทำความเข้าใจกันว่าปัญหา ค่าไฟแพง 2566 มีปัจจัยใดเป็นตัวสนับสนุน แล้วเราจะหาทางออกให้กับวิกฤติเรื้อรังนี้ยังไงให้เกิดความยั่งยืน เนื่องจากไฟฟ้าถือเป็นพลังงานสำคัญและมีความจำเป็นสำหรับทุกสถานที่ และทุกคน โดยเฉพาะในอนาคตที่คาดว่าจะต้องใช้ในปริมาณเพิ่มสูงขึ้น การมารู้จักสาเหตุ ค่าไฟแพง 2566 จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่จะสร้างทางเลือกใหม่ ๆ ที่จะทำให้ไม่ต้องเครียดกับปัญหาค่าไฟที่ผลักดันให้ค่าครองชีพสูงตามไปด้วย 1. การพึ่งพาและนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างชาติ ที่ไม่สามารถควบคุมราคาได้ การผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยในปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรายังคงพึ่งพาเชื้อเพลิงที่มีแหล่งผลิตอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งทำให้ไม่สามารถควบคุมโครงสร้างราคาได้ โดยเฉพาะหากมีปัจจัยอื่น ๆ เข้ามาสนับสนุน เช่น การหยุดซ่อมแซมเพื่อปรับปรุงระบบขุดเจาะหรือนำส่ง การเกิดภาวะสงครามหรือความขัดแย้งในประเทศนั้น ๆ จำนวนปริมาณพลังงานที่มีจำนวนน้อยลง จนส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหา ค่าไฟแพง 2566 ทั้งสิ้น 2. การใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลส่วนใหญ่ในการเป็นแหล่งพลังงานผลิตไฟฟ้า ระบบโรงผลิตไฟฟ้าส่วนใหญ่ยังคงต้องใช้เชื้อเพลิงจากน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสำคัญในการผลิตไฟฟ้า ทำให้ประเทศไทยต้องแบกรับความเสี่ยงกรณีขาดแคลนเชื้อเพลิงเหล่านี้ ซึ่งต้องมีการหาแหล่งสำรอง ที่อาจจะมีราคาที่สูงขึ้น แต่ด้วยข้อจำกัด จึงต้องมีการจัดซื้อ เพื่อให้มีต้นทุนเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าให้เพียงพอต่อความต้องการของประชากรในประเทศ และไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจการค้าโดยรวม นี่จึงนับเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ส่งผลให้เกิดวิกฤติ ค่าไฟแพง 2566 3. รูปแบบต้นทุนการผลิต ที่ผลักภาระไปสู่ผู้ใช้ไฟฟ้าโดยตรง ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในการผลิตไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นที่ผลิตโดยโรงไฟฟ้าของรัฐ หรือเอกชน จะนำมาคำนวณรวมกันแล้วเฉลี่ยเป็นส่วนประกอบของโครงสร้างค่าไฟฟ้าที่ทุกสถานที่ผู้ใช้ไฟจะต้องแบกรับ ในสัดส่วนที่แตกต่างกันไป แปรผันตามปริมาณการใช้งาน ยิ่งใช้ไฟฟ้ามาก ก็ยิ่งจะต้องจ่ายค่าไฟสูงขึ้น ค่าไฟแพง 2566 ส่วนหนึ่งจึงมาจากรูปแบบต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่จะผลักดันภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไปสู่ผู้ใช้ไฟฟ้าโดยตรง เพื่อไม่ก่อให้เกิดภาระขาดทุนที่ภาครัฐจะต้องแบกรับ หรือนำภาษีที่จัดเก็บได้มาอุดหนุน 4. การสำรองไฟฟ้าไว้ใช้งานในอัตราที่สูงเกินความจำเป็น เพื่อให้เกิดความมั่นคงทางพลังงานไฟฟ้า และไม่ก่อให้เกิดการหยุดชะงัก กรณีเกิดการขาดแคลน รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้ไฟ ไม่ว่าจะเป็นการไฟฟ้าฝ่ายผลิต การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือการไฟฟ้านครหลวง จึงต้องมีการวางแผน เพื่อดำเนินการสำรองกระแสไฟฟ้าไว้ใช้งานให้เพียงต่อ โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน หรือช่วงที่มีการหยุดซ่อมบำรุงของโรงไฟฟ้าบางแห่ง ซึ่งจะทำให้ไฟฟ้าบางส่วนหายไปจากระบบ ทำให้ต้องซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศเข้ามาทดแทน ในบางครั้งอาจจะมีอัตราสำรองที่สูงเกินจริง จึงเป็นหนึ่งในต้นเหตุให้เกิดปัญหา ค่าไฟแพง 2566 5. นโยบายด้านพลังงานที่ไม่สอดคล้องต่อสถานการณ์ เสถียรภาพด้านการเมือง แม้จะไม่ใช่ประเด็นหลักที่จะทำให้เกิดปัญหา ค่าไฟแพง 2566 แต่ก็ไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะนโยบายจากรัฐบาลในแต่ละยุคสมัยก็มีผลผูกพันต่อการทำสัญญาซื้อขาย และการวางแผนเพื่อรองรับการใช้ไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เมื่อมีการปรับเปลี่ยนรัฐบาล หรือผู้มีอำนาจในการสั่งการ ก็มักจะเป็นส่วนหนึ่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแนวคิดในการดำเนินการ ซึ่งอาจจะกระทบกระเทือน และไม่สอดคล้องต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ ค่าไฟแพง 2566 จึงมีสาเหตุหรือต้นทางมาจากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น โดยอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยคลี่คลายปัญหานี้ได้อย่างยั่งยืน ก็คือ การหันมาใช้พลังงานทางเลือกอย่างแสงอาทิตย์ในการผลิตไฟฟ้าผ่านระบบโซล่าเซลล์ โดยสำหรับท่านใดที่สนใจในการนำระบบโซล่าเซลล์มาใช้งาน สามารถขอคำปรึกษาและสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ จากผู้ที่มีความเชี่ยวชาญอย่าง บริษัท โซลาร์ พาวเวอร์ ครีเอชั่น บริษัทชั้นนำด้านการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ที่มีประสบการณ์มากว่า 20 ปี มีทีมวิศวกรและช่างที่มีความเชี่ยวชาญดูแลตลอดระยะเวลาตั้งแต่สำรวจ ติดตั้ง ขออนุญาต ไปจนถึงการบำรุงรักษา โดยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 082-628-2456 หรือแอดไลน์ @Solarpowercreation และเข้าไปอ่านเนื้อหาความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับโซลาร์เซลล์ได้ที่ www.powercreation.co.th และ Facebook : Solar Power Creation
โพสเพิ่มเติม